ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ได้มาถึงระดับรัฐบาลของรัสเซียแล้ว โดยรองนายกรัฐมนตรี Andrei Belousov ได้จัดประชุมสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหามาตรการเพื่อขจัดปัญหาการขาดแคลนที่อาจ เกิดขึ้นในตลาดคอนเทนเนอร์เนื่องจากมีสายการเดินเรือ ต่างชาติหลายรายยุติการทำธุรกิจกับรัสเซีย ดังนั้นเพื่อ หลีกเลี่ยงความล่าช้าในการจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภค คณะรัฐมนตรีต้องการทราบว่าจะชดเชยความเสี่ยงที่ เกิดขึ้นใหม่ได้เมื่อใดและอย่างไร เช่น ใช้มาตรการผ่อน คลายกฎระเบียบและกระตุ้นการผลิตในท้องถิ่น ซึ่ง บริษัทโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดระบุว่าขณะนี้รัสเซียมีขีด ความสามารถผลิตตู้คอนเทนเนอร์ได้เองประมาณร้อย 1 เท่านั้นจากความต้องการทั้งหมด ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่าสามารถจัดซื้อตู้คอนเทนเนอร์ได้จากภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้แต่อาจต้องใช้เวลานานถึงหก เดือน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรี Andrey Belousov จัดประชุมกับธุรกิจต่างๆ เกี่ยวกับปัญหา ด้านโลจิสติกส์ในตลาดภายในประเทศ โดยได้มีการ หารือถึงปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์สำหรับ การส่งออกและนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (ยกเว้น ผลิตภัณฑ์ที่เน่าเสียง่าย) โดยมีข้อสังเกตว่าสถานการณ์ที่ เลวร้ายลงอาจนำไปสู่การหยุดชะงักและเกิดความล่าช้า ในการขนส่งสินค้า ดังนั้นจึงสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คำนวณปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ที่ตลาดต้องการและ หาทางจัดหามาเพิ่มเติมในกรณีที่เกิดปัญหาการขาด แคลน
ก่อนที่จะมีการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย มีตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 20 ฟุต จำนวน 1.5 ล้านตู้ (TEU) หมุนเวียน ภายในประเทศเพื่อรองรับการนำเข้าและส่งออกสินค้า โดยจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 700,000 TEU เป็นของผู้ประกอบการเดินเรือ ต่างประเทศ ได้แก่ Maersk, MSC, CMA CGM และอื่น ๆ ซึ่งในเดือนมีนาคมได้ประกาศระงับการให้บริการ ขนส่งสินค้ากับรัสเซีย

จากแหล่งข่าวในบริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่แห่งหนึ่งกล่าว ว่า ปัจจุบันปริมาณการขนส่งสินค้าที่ลดลงหมายความว่าความต้องการตู้คอนเทนเนอร์ที่ตลาดต้องการก็จะ ลดลงด้วย รัสเซียอาจเกิดภาวะขาดแคลนตู้สินค้า ประมาณ 3 – 3.5 แสน TEU ในอนาคตอันใกล้ และหวัง ว่าสายการเดินเรือต่างชาติที่เลิกทำธุรกิจในรัสเซียจะไม่นำตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดออกไปนอกประเทศและหวังว่าผู้ประกอบการขนส่งรายใหม่พร้อมตู้คอนเทนเนอร์จะ เติมเข้ามาทดแทนบ้าง นอกจากนี้คอนเทนเนอร์บางส่วน ก็สามารถจัดซื้อได้จากต่างประเทศและบางส่วนอาจจะ มาจากอุตสาหกรรมการผลิตของรัสเซียเองอีกประมาณ 6-12,000 TEU ต่อปีนั่นคือประมาณร้อยละ 1 ของ ความต้องการของตลาด
Eurosib SPb-Transport Systems (หนึ่งในผู้ให้บริการ ที่ใหญ่ที่สุดในสหพันธรัฐรัสเซีย) เห็นด้วยกับการประเมิน การผลิตในประเทศและมั่นใจว่าการผลิตในประเทศควร เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 – 100,000 TEU ต่อปี แต่คงต้องใช้ เวลาอีกหลายปี ในช่วงกลางเดือนเมษายน กระทรวงอุตสาหกรรมและ การค้ารายงานว่าบริษัทที่ผลิตตู้คอนเทนเนอร์สามารถ เข้าเกณฑ์มาตรการขอสนับสนุนด้านการเงินของรัฐบาล โดยจะเพิ่มเงินให้สินเชื่อพิเศษแก่วิสาหกิจอุตสาหกรรมหลักถึงสามเท่าหรือมากถึง 120,000 ล้านรูเบิล เป็นผล ให้พอร์ตสินเชื่อจะขยายเป็น 1.5 ล้านล้านรูเบิล ผู้ผลิตตู้คอนเทนเนอร์รายใหญ่ที่สุดในรัสเซียคือ RM Rail Abakanvagonmash เห็นว่าในสถานการณ์นี้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ 2 วิธี คือ ซื้อตู้คอนเทนเนอร์จาก จีน หรือ เพิ่มกำลังการผลิตภายในประเทศสูงสุด 50,000 TEU เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการ ภายในประเทศ โดยบริษัทจะรับหน้าที่ในการผลิต จำนวนนี้ด้วยการสนับสนุนและการรับประกันจาก ภาครัฐ นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ ภายในหนึ่งปีครึ่งถึงสองปี
Eurosib SPb-Transport Systems ตั้งข้อสังเกตว่า หากตัดสินใจจะซื้อตู้คอนเทนเนอร์จากเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ในปริมาณที่รัสเซียต้องการจะต้องใช้เวลานานถึง หกเดือน ดังนั้นการให้เงินอุดหนุนและมาตรการจูงใจ สำหรับการผลิตในประเทศน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า โดยประการแรกที่ควรคำนึงถึงคือจัดหาส่วนประกอบที่ สำคัญสำหรับผลิตคอนเทนเนอร์เนื่องจากต้องนำเข้ามา จากต่างประเทศ รวมทั้งมีมาตรการยกเว้นภาษีศุลกากร สำหรับตู้คอนเทนเนอร์ที่ซื้อจากต่างประเทศ สายการเดินเรือของบริษัทต่างประเทศที่ทะยอยถอน ออกและลดกิจกรรมลงในรัสเซียอาจใช้เวลานานถึงสี่ เดือน หลังจากนั้นจึงจะเกิดปัญหาการขาดแคลนตู้คอน เทนเนอร์ซึ่งจะส่งผลกระทบในแต่ละภูมิภาคจนกว่า ปริมาณตู้คอนเทนเนอร์ใหม่จำนวนมากจะถูกนำมาเติมเต็ม
แหล่งที่มา : Logistical conclusions: the authorities took up the problem of the lack of containers, by Evgenia Pertseva, iz.ru