นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า รายละเอียดของร่างสัญญายังคง ยึดตามกรอบข้อเสนอร่วมการลงทุน หรือ RFP อย่างแน่นอน โดยประเด็นการส่งมอบพื้นที่ที่มีปัญหานั้น ร.ฟ.ท. มั่นใจว่าสามารถส่งมอบให้ตามนั้นตาม RFP กำหนด คือจะส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้ได้อย่างน้อย 50% พร้อมกันนี้จะระบุและในเอกสารแนบท้าย แจกแจงรายละเอียดการส่งมอบพื้นที่ให้มีความชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้รายละเอียดการส่งมอบ พื้นที่ ซึ่งแบ่งเป็น พื้นที่บนดิน หากเป็นพื้นที่บุกรุกหรือเวนคืน ร.ฟ.ท.จะมีหน้าที่ในการดำเนินการ และรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ส่วนที่เหลือเศษวัสดุ บ้านเรือนและอื่นๆที่อยู่บนแนวเส้นทางเป็นของฝ่ายเอกชนที่ต้องดำเนินการ ส่วนพื้นที่ใต้ดิน ต้องเป็นหน้าที่ร่วมระหว่าง ร.ฟ.ท., เอกชนและหน่วยงานสาธารณูปโภค โดยผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและการรื้อย้ายจะต้องเป็นเจ้าของสาธารณูปโภค
ส่วนการรื้อถอนเสาตอม่อโฮปเวลล์ รักษาการผู้ว่ารฟท. กล่าวว่า เอกชนจะต้องเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนค่าใช้จ่ายในรื้อย้ายฐานะที่ร.ฟ.ท.เป็นเจ้าของเสาตอม่อโฮปเวลล์ จะต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้กับเอกชน
ทั้งนี้หากคณะกรรมการกพอ.เห็นชอบ ในวันที่ 30 กันยายน จะส่งหนังสือแจ้งไปยังกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร หรือ CPH เพื่อแจ้งวันลงนามสัญญา 15 ตุลาคมนี้