หลังรัฐบาลปูพรมจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนของประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพการเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน ตามข้อตกลงการค้าเสรีภายใต้กรอบอาเซียน เอื้อต่อการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน
จังหวัดนครพนม คืออีกหนึ่งพื้นที่ที่รัฐบาลปักหมุดให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เหตุเป็นที่มีโครงข่ายคมนาคมและที่ตั้งเหมาะสมในการเป็นประตูสู่อาเซียนและจีนตอนใต้ – ตะวันออก โดยเฉพาะด่านพรมแดนนครพนม แหล่งชุมนุมสิงห์รถบรรทุกเข้า-ออกผ่านทางสะพานมิตรภาพ 3 (ไทย-ลาว ) นครพนม – คำม่วน จุดเชื่อมโยงการขนส่งสินค้า การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของไทยไปยังสปป.ลาว เวียดนาม และจีนตอนใต้ได้สะดวกและสั้นที่สุด
เป็นเหตุผลอันชอบธรรมให้ “นครพนม” กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนไทยและเทศกระเป๋าตุงแห่แหนลงทุนและแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจในภูมิภาคนี้
ล่าสุด ค่ายสแกนเนีย ลงพื้นที่ส่งมอบหัวลากสแกนเนีย 20 คัน ให้กับยักษ์ใหญ่ขนส่งนครพนมอย่าง เจ แอนด์ เค โลจิสติกส์ (2014) พร้อมผนึกพันธมิตรทางธุรกิจในพื้นที่ จ่อตั้งธนนนท์ทรัคฯเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจในฐานะตัวแทนสแกนเนียนครพนมหวังเจาะตลาดในภูมิภาคนี้
คุณภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด เปิดเผยหลังร่วมพิธีส่งมอบรถหัวลากสแกนเนีย 20 คันให้กับเจ แอนด์ เค โลจิสติกส์ (2014) ว่า นครพนมในวันนี้ไม่เหมือนนครพนมเมื่อ 3 ปีที่แล้วหลังรัฐบาลประกาศนครพนมเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ทำให้วันนี้นครพนมเติบโตอย่างมากทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน สังคม และเศรษฐกิจ
“นครพนมในวันนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญด้านการค้าการลงทุน เป็นจุดเชื่อมโยงคมนาคมขนส่งทั้งคนและสินค้าผ่านสะพานมิตรไทย-ลาวแห่งที่ 3 ด้วยเส้นทาง R12 ไปยังประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนอย่างสปป.ลาวผ่านเวียดนามไปถึงจีนตอนใต้ด้วยระยะทางที่สั้นกว่าเส้นทาง R9 จึงทำให้นครพนมในวันนี้มีอัตราการเติบโตและคึกคักทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก”
นอกจากนี้ คุณภูริวัทน์ ย้ำอีกว่าสแกนเนีย เป็นรถที่แข็งแกร่งได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย มีสมรรถนะและประสิทธิภาพการใช้งานสูง ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ และที่สำคัญสามารถคืนทุนให้กับผู้ประกอบการได้เร็ว ตลอดระยะเวลา 31 ปีที่สแกนเนียดำเนินธุรกิจในไทย ยังไม่เคยมีไอเดียแต่งตั้งใครเป็นตัวแทน แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงอยากจะเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อแต่งตั้งผู้ประกอบการไทยเป็นตัวแทน เพื่อร่วมผลักดันและนำแบรนด์สแกนเนียออกไปสู่ตลาดในภูมิภาคนี้ได้มากยิ่งขึ้น
“แม้วันนี้จะยังไม่ได้แต่งตั้งอย่างเป็นการทางการ แต่ทว่าผมพูดในวันนี้ สแกนเนีย ประกาศให้ทุกคนรับรู้ทั่วกันว่าเรากับธนนนท์ทรัคฯคบหาเป็นแฟนกัน แต่ยังไม่ไปจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น แต่ผมพูดในนาม สแกนเนีย เราคบแฟนคนเดียวที่นครพนม นั่นก็คือธนนนท์ทรัคฯเรามั่นใจในศักยภาพของธนานนท์ทรัคฯและยินดีกับการเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้น แต่ขอพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนจะประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ”
ด้านคุณเกรียงเดช ปุ้มกระโทก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ แอนด์ เค โลจิสติกส์ (2014) จำกัด เปิดเผยว่าการที่เราเลือกซื้อรถหัวลากสแกนเนียจำนวน 20 คัน เพราะเห็นเป็นรถที่มีมาตรฐานและคุณภาพสูง แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้มีคือศูนย์บริการในพื้นที่นครพนม ซึ่งผู้บริหารสแกนเนียก็รับปากและได้เลือกธนนนท์ทรัคฯเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจในฐานะตัวแทนสแกนเนียในพื้นที่นครพนมตามที่คุณภูริวัทน์ได้พูดเอาไว้ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการและพิจารณารายละเอียดขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะประกาศอย่างเป็นการ
“ความมุ่งมั่นของทางสแกนเนียสะท้อนให้เห็นความชัดเจนถึงการเจาะตลาดในภูมิภาคนี้ ทำให้เรามั่นใจจึงได้จัดซื้อทันที 20 หัว และมีแนวโน้มจะซื้อเพิ่มอีกถ้าธุรกิจมีการเติบโตมากยิ่งขึ้น”