ผู้คร่ำวอดในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ รัสเซียเห็นว่า ในปี 2566 นี้ ยานยนต์ของจีนจะสามารถ ครองส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่ในรัสเซียได้ โดยคาดการณ์ว่ายานยนต์ใหม่ที่ชาวรัสเซียจะซื้อในปีนี้จะเป็นยานยนต์ จากจีนถึงร้อยละ 60 จากยานยนต์ใหม่ที่มีการซื้อ ทั้งหมด เนื่องจากผู้ผลิตยานยนต์จากชาติตะวันตกและ พันธมิตรได้ถอนตัวออกไปจากรัสเซียหลังจากการใช้ มาตรการคว่ำบาตร ดังนั้น ในปัจจุบันหากพิจารณาจากตัวแทนจำหน่ายยานยนต์อย่างเป็นทางการในรัสเซีย นอกเหนือจากบริษัทของรัสเซีย เช่น บริษัท AvtoVAZ แล้วก็เหลือเพียงแค่บริษัทตัวแทนจำหน่ายยานยนต์อย่างเป็นทางการจากจีนเท่านั้นที่ยังเปิดบริการในรัสเซีย
ดังนั้น ชาวรัสเซียจึงไม่ได้มีทางเลือกในการซื้อยานยนต์จากหลากหลายประเทศเหมือนแต่ก่อน และ นอกเหนือจากยานยนต์สำเร็จแล้ว ชาวรัสเซียก็มีแนวโน้มจะซื้อชิ้นส่วนและอุปกรณ์อะไหล่ยานยนต์จากจีนเพิ่มขึ้นด้วย ในปีที่ผ่านมาชาวรัสเซียซื้อยานยนต์จากจีน ประมาณ 120,000 คัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 18 ของ ยานยนต์ใหม่ทั้งหมดที่มีการซื้อในรัสเซีย และจากสถิติ ของ Association of European Businesses (AEB) พบว่า สัดส่วนยอดขายยานยนต์จากจีนเพิ่มขึ้น อย่างรวดเร็วมากในปีที่ผ่านมา โดยในช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2565 ชาวรัสเซียซื้อยานยนต์จากจีนเพียงแค่ ร้อยละ 3.7 (ประมาณ 13,800 คัน จากยานยนต์ ที่มีการซื้อทั้งหมดในรัสเซีย 370,200 คัน)
ขณะที่ ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ชาวรัสเซียซื้อยานยนต์จากจีนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 33 (ประมาณ 157,000 คัน จากยานยนต์ที่มีการซื้อทั้งหมด 317,100 คัน) ทั้งนี้ ผู้อยู่ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ของ รัสเซียเห็นว่าการที่ยานยนต์จากจีนมียอดขายเพิ่มขึ้น อย่างมากในตลาดรัสเซียอาจส่งผลกระทบได้ทั้งทางบวก หรือทางลบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของรัสเซีย ในด้านบวกอาจทำให้ตลาดยานยนต์ของรัสเซียกลับมาคึกคัก โดยช่วยฟื้นยอดขายยานยนต์ในรัสเซีย ให้สามารถกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิด สงครามได้ภายในระยะเวลา 3-4 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ดี ในระยะยาวยอดขายยานยนต์ของจีนที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผล ทางลบกับอุตสาหกรรมยานยนต์รัสเซีย โดยอาจทำให้ รัสเซียไม่สามารถพัฒนาอุตสาหกรรมรวมทั้งเทคโนโลยี ด้านยานยนต์ของตนเองและลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศได้ตามที่รัฐบาลรัสเซียปัจจุบันคาดหวัง
มาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกและชาติพันธมิตรต่อรัสเซียจากสถานการณ์ในยูเครนตั้งแต่ต้นปีที่แล้วส่งผลกระทบกับโครงสร้างการค้าของรัสเซีย
อย่างสำคัญ โดยทำให้การค้าของรัสเซียเบี่ยงเบนออกจากชาติตะวันตกและพันธมิตร และเขยิบเข้าใกล้ชิดกับ มิตรประเทศอย่างจีนเพิ่มมากขึ้น โดนยานยนต์เป็นเพียง ตัวอย่างหนึ่งของสินค้าที่รัสเซียมีการนำเข้าหรือ ซื้อจากจีนเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมานอกเหนือจากสินค้าอื่นๆ
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่การค้าระหว่างรัสเซียและจีน ในปี 2565 จะมีมูลค่ามากเป็นประวัติการณ์ และจีนยังรักษาตำแหน่งคู่ค้าสำคัญของรัสเซียไว้ ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ทางการค้าที่ใกล้ชิด มากขึ้นระหว่างรัสเซียกับจีน ยังสะท้อนจาก ล่าสุดที่เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ได้มีการเปิด ให้บริการขนส่งทางรถไฟเส้นทางปักกิ่ง-มอสโก ซึ่งถือเป็นการริเริ่มการให้บริการขนส่งทางรถไฟตรง (direct freight train) ระหว่างมอสโกและปักกิ่ง แบบเป็นประจำ (regular service) ซึ่งเส้นทางดังกล่าว จะอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่าง เมืองหลวงของสองประเทศ อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงไป ยังเมืองใกล้เคียงได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การประกาศ ร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีปูตินและประธานธิบดี สีจิ้นผิงในช่วงการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2566 ว่าทั้งสองประเทศจะส่งเสริมความสัมพันธ์ และขยายความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน รวมทั้งด้านเศรษฐกิจการค้าน่าจะทำให้ความสัมพันธ์ ทางการค้าและการลงทุนของรัสเซียที่มีต่อจีน ยิ่งแนบแน่นมากขึ้นไปอีก
แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย
