เมื่อฤดูกาลเริ่มเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนตามวงล้อการเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าสภาพอากาศนั้นย่อมมีผลต่อสภาพเครื่องของรถยนต์สุดที่รักของคุณ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ใส่ใจแล้วล่ะก็อาจสร้างปัญหาในภายหลังได้ ยิ่งเป็นรถบรรทุกที่ใช้งานสมบุกสมบันจากการขนส่ระยะไกล นอกเหนือจากการบำรุงรักษาตามระยะไมล์การใช้งานแล้ว การบำรุงรักษาให้เหมาะสมตามฤดูกาลก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ยานพาหนะพร้อมล้อหมุนใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความปลอดภัย
ยิ่งฤดูฝนในเวลานี้ที่แม้อาจมีการบำรุงรักษารถยนต์ไม่มากเท่ากับฤดูร้อน แต่จะมีรายละเอียดเล็กน้อยที่ต้องใส่ใจในส่วนของสีรถ และระบบของเหลวต่างๆ นอกจากนี้ฤดูฝนเป็นฤดูที่มีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุดเนื่องจากทัศนวิสัยการขับขี่
– มองทางได้ยากขณะฝนตก กะระยะห่างจากรถคันอื่นได้ยาก
– ถนนลื่น โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุยิ่งมากขึ้น
– เสี่ยงน้ำท่วม เครื่องยนต์อาจเสียหายหนักจนใช้งานไม่ได้
วิธีบำรุงรักษามีอะไรบ้าง?
เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนน่าจะรู้กันดีว่าการขับรถขณะฝนตกนั้นอันตรายแค่ไหน เพราะฉะนั้นวิธีการบำรุงรักษาต่อไปนี้จะมีทั้งการดูแลเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน และการบำรุงรักษาสภาพเครื่องของรถยนต์ด้วย ซึ่งคุณสามารถทำได้ดั งนี้
1.ตรวจเช็คระบบของเหลวทั้งหมด:หลังจากขับรถตอนฝนตก ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย และน้ำมันเกียร์ หากสีของน้ำมันเหล่านี้อ่อน หรือจางลงแปลว่ามีน้ำฝนไหลเข้าไปปะปน ให้รีบนำไปเปลี่ยนถ่ายของเหลวทันที
2.ตรวจเช็คลูกปืนล้อ: เพราะขณะที่คุณขับรถผ่านแอ่งน้ำขังหรือแช่ไว้ในน้ำนานๆ อาจทำให้จาระบีที่เป็นตัวหล่อลื่นของลูกปืนถูกชะล้างออกไป เสี่ยงทำให้ลูกปืนล้อแตก
3.ระบบไฟทั้งหมดต้องใช้การได้: หากไฟดวงใดดวงหนึ่งไม่ทำงานมีโอกาสที่จะทำให้รถคันอื่นไม่เห็นแล้วขับเข้ามาชนได้ ยิ่งฝนตกถนนลื่นโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุก็ยิ่งมาก
4.ยางรถต้องพร้อมใช้: ยางรถของคุณต้องยังไม่เสื่อมสภาพ ยิ่งเป็นยางรถบรรทุกที่ใช้บรรทุกของหนักแล้วก็ต้องยิ่งหมั่นเช็คหมั่นตรวจสอบ มิฉะนั้นการเกาะถนนจะลดลงทำให้ลื่นไถลจนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยอาจสังเกตจากอายุการใช้งานของยางหากเกิน 3 ปีขึ้นไป ถือว่าเริ่มเสื่อมสภาพควรเปลี่ยนได้แล้ว
5.เบรกต้องไม่สึก: สังเกตดูว่าผ้าเบรกยังสามารถชะลอความเร็วรถได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิมหรือไม่ ท้ายรถปัดเป๋ไปมาตอนเบรกบ้างหรือยัง หากพบอาการเหล่านี้ให้รีบนำรถไปตรวจสภาพโดยด่วน
6.ใบปัดน้ำฝนต้องทำงานปกติ: ในช่วงที่ฝนตก ทัศนวิสัยสำคัญที่สุด หากใบปัดน้ำฝนใช้ไม่ได้ คุณอาจมองไม่เห็นทางและเกิดอุบัติเหตุได้
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการบำรุงรักษารถยนต์ของคุณในช่วงฤดูฝน พร้อมป้องกันการเกิดอุบัติเหตุไปในตัวด้วย แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าถึงแม้ว่าคุณจะขับรถดีแค่ไหนก็ยังมีความเสี่ยงที่ผู้อื่นอาจจะประมาทขับมาชนคุณก็ได้ ซึ่งในกรณีนี้หากคุณไม่มีประกันรถยนต์ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมต่างๆคุณอาจจะต้องจ่ายเองทั้งหมด ยิ่งเป็นรถบรรทุกขนส่งสินค้าหากมีประกันภัยขนส่งสินค้าก็จะช่วยให้ดูอุ่นใจมากยิ่งขึ้น
สนับสนุนการลดอุบัติเหตุและใช้รถใช้ถนนให้ปลอดภัย โดย :