หลังจากที่เกิดคำวิจารณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณในการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าใน เยอรมนี ในที่สุดรัฐบาลเยอรมันได้ร่างแผนการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าขึ้นใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่การสิ้นสุด ของการอุดหนุนราคารถยนต์ไฟฟ้าประเภท Plug-In Hybrid (PHEV) ในปี 2023 ยืนยันโดยนาย Robert Habeck รัฐมนตรีว่ากระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ในปัจจุบัน ตลาดรถยนต์ในประเทศเยอรมนีนั้นมีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ รถยนต์ไฟฟ้า ไฮบริด หรือ Hybrid Electric Vehicle ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า
โดยเครื่องยนต์สันดาปภายในนั้นอาศัยพลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้านั้นขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่จะผลิตจากการขับเคลื่อนของรถยนต์ ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่มีหลักการในขับเคลื่อนเหมือนกันกับรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด เพียงจะแตกต่างกันที่ PHEV นั้น สามารถชาร์จไฟฟ้าจากสถานีชาร์จไฟฟ้าและเสียบชาร์จไฟจากไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือนได้โดยตรง ซึ่งมีความสะดวกใน การใช้งานและประหยัดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงกว่ารถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดกว่ามาก เพราะรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบ ดั้งเดิมนั้น จะชาร์จไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี่ได้ก็ต่อเมื่อมีการขับเคลื่อนของรถเท่านั้น และประเภทสุดท้าย รถยนต์ ไฟฟ้าประเภท BEV หรือ Battery Electric Vehicle นั้น สามารถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ตามสถานีชาร์จไฟฟ้า และด้วยไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือน
ขณะที่คำวิจารณ์ที่มีต่อนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้านั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากรถยนต์ไฟฟ้า PHEV ที่สามารถเติมได้ทั้งน้ำมันและยังสามาชาร์จไฟฟ้าจากภายนอกได้ด้วยนั้น ที่ยังต้องพึ่งพาการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนอยู่ ทั้งยังทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ซึ่งไม่สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลเยอรมันสักเท่าไหรที่ต้องการจะนำประเทศเยอรมนีเข้าสู่สังคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนโยบายสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลเยอรมนีในปัจจุบันนั้น จะสนับสนุนผู้ชื้อรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ประเภท BEV และ PHEV โดยผู้ซื้อจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลหลังจากที่ได้ซื้อหรือทำสัญญาซื้อเรียบร้อย
นาย Robert Habeck รัฐมนตรีว่ากระทรวงเศรษฐกิจและการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ได้แสดงความคิดเห็นต่อคำวิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายสนับสนุนการซื้อรถยนต์ฟ้าว่า การให้เงินสมทบในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้านั้น ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป โดยเฉพาะรถยนต์ประเภท Plug-In Hybrid เพราะขณะนี้การใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและรถยนต์ PHEV นั้นยังคงต้องพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิงในการ ขับเคลื่อนซึ่งเป็นสาเหตุแห่งมลพิษทางอากาศและภาวะโลกร้อน ดังนั้นรัฐบาลจึงควรที่จะทบทวนแผนการ ใช้เงินงบประมาณภาษีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเข้าสู่สังคมแห่งรถยนต์ไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด โดยมุ่งเน้นใน การสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าประเภท BEV ที่ไม่ต้องเติมน้ำมันและไม่สร้างมลพิษทางอากาศ ซึ่ง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเยอรมันชุดปัจจุบันที่มุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า
ดังนั้น รัฐบาลเยอรมันจึงได้ปรับแผนการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมรถยนต์ไฟฟ้า และทำให้ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป รัฐบาลจะจ่ายเงินสมทบให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ประเภท BEV เท่านั้น โดยมีวงเงินงบประมาณ สนับสนุนในปี 2023 อยู่ที่ 2.1 พันล้านยูโร และสำหรับปี 2024 อยู่ที่ 1.3 พันล้านยูโร ทั้งนี้การลดลงอย่าง ต่อเนื่องของงบประมาณสนับสนุนแสดงให้เห็นถึงจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นและได้รับความนิยมอย่างมาก และมากจนถึงจุดที่การสนับสนุนจากรัฐบาลนั้นไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป
ที่มา: tagesschau.de
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต