“เสรีชัยพัฒนา 2004” ยกระดับด้านการขนส่งสินค้าพัฒนารถบรรทุกตู้ผ้าใบรุ่นใหม่เพื่อลดเวลาการลำเลียงสินค้ารายแรกในประเทศไทย พร้อมส่งมอบรถบรรทุกตู้ผ้าใบแม่-ลูก จำนวน 80 คัน แก่บริษัท DHL ยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์ มั่นใจผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อผู้ประกอบการโลจิสติกส์
โรงงานที่ผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์อีกรายในจังหวัดชลบุรี ของดีบ้านบึง โดยเป็นที่กล่าวถึงมากมายเรื่องการใส่ใจลูกค้าและคุณภาพได้มาตรฐาน ทางทีมข่าว TransTime ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตและร่วมสัมภาษณ์กับหัวเรือใหญ่ชายรูปร่างสันทัด คุณเสรีชัย ชำนิโชคธนทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสรีชัยพัฒนา 2004 จำกัด กล่าวถึง การพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่สามารถพลิกโฉมวงการขนส่งยกระดับมาตรฐานให้ดียิ่งขึ้นและพร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์จำนวน 80 คัน
คุณเสรีชัย กล่าวว่า สำหรับเรื่องการตลาดวงการผลิตรถบรรทุกในปี 61 น่าจะไปทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากเริ่มมีลูกค้าติดต่อเข้าเยอะขึ้นมากแล้วในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งตั้งแต่ต้นปีมานี้สัญญาณบวกเริ่มมาแล้วโดยเฉพาะในไตรมาสแรกปี 61 จำหน่ายไปแล้วกว่า 200 คัน

sdr
พัฒนารถต้นแบบ DHL ปลื้ม สั่งซื้อจำนวน 80 คัน
ในปีนี้ได้มีโอกาสได้ร่วมทำงานกับทางบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโลจิสติกส์ระดับประเทศอย่าง DHL โดยเป็นขนส่งที่มีความหลากหลาย ซึ่งทาง DHL มีรถที่ใช้ในด้านโลจิสติกส์เกือบทุกประเภท ซึ่งทางโรงงาน เสรีชัยพัฒนา ก็ได้ผลิตรถบรรทุกเพื่อใช้การขนส่งแก่ DHL ไปแล้วร่วม 500 คัน อย่างเช่น รถกึ่งพ่วงก้างปลา พื้นเรียบ รถบรรทุกตู้ทึบ ซึ่งรถบรรทุกตู้ผ้าใบเป็นอีกหนึ่งสินค้ามาแรงในครั้งนี้ที่ได้รับความไว้วางใจอีกครั้งจากทาง DHL ให้ผลิตรถตู้ผ้าใบ แม่-ลูก จำนวน 80 คัน ซึ่งพร้อมส่งมอบแล้วขณะนี้
ซึ่งความพิเศษของรถตู้ผ้าใบ แม่-ลูก รุ่นนี้จะมีความพิเศษจากรถตู้ผ้าที่ใช้งานทั่วไป เนื่องจากเราได้ไปศึกษาดูงานที่ประเทศเยอรมันเมื่อประมาณ 4 ปี ที่ผ่านมาและได้กลับมาเสนองานกับทาง DHL ว่าเป็นรถตู้ผ้าใบที่สามารถลดเวลาการขนส่งหรือเคลื่อนย้ายสิ้นค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทางลูกค้าก็สนใจ จึงผลิตรถต้นแบบขึ้นมาจำนวน 1 คัน เอาให้ทาง DHL ไปใช้ทดสอบงานจริงจนเป็นที่น่าพอใจด้านคุณภาพการใช้งานจึงมีการสั่งซื้ออีกจำนวน 40 ชุด รวมทั้งสิ้นจำนวน 80 คัน ซึ่งในอนาคตขอให้ทาง DHL ได้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบไปก่อนแต่คาดว่าน่าจะมีการสั่งเพิ่มเติมหลังจากนี้
ตู้ผ้าใบรุ่นใหม่ไม่เสียเวลา คุ้มค่าต่อการใช้งาน
ปกติแล้วถ้าเป็นรถบรรทุกทั่วไปนั้นการที่จะเคลื่อนย้ายสินค้าจะต้องทำการปลดตัวล็อคพ่วงตัวแม่และลูกแยกออกจากกันก่อน และทำการโหลดสินค้าทีละตู้โดยขั้นตอนเหล่านี้จะใช้เวลาค่อนข้างานจึงเสียเวลา โดยรถตู้ผ้าใบที่ เสรีชัยพัฒนา ออกแบบขึ้นมานี้ได้เพิ่มสะพานท้ายของตัวแม่ที่สามารถพับขึ้นลงได้ เพื่อนำมาพาดไปยังตู้ตัวลูกให้เป็นสะพานเชื่อมต่อกัน รถโฟลคลิฟที่จะลำเลียงสินค้าเข้ามาตู้สามารถขับผ่านตู้ตัวลูกเข้ามาในตู้ตัวแม่ได้เลย
“เป็นการทำงานลำเลียงสินค้าเข้าตู้ได้อย่างรวดเร็วกว่าเท่าตัว และมีความคล่องตัวสูง ไม่ต้องเสียเวลาปลดสายเชื่อมต่อระหว่างตู้ ไม่เสียเวลาถอดเข้าถอดออก ไม่ต้องใช้คนเยอะ ไม่เสียพื้นใช้สอยในการวางสินค้าในพื้นที่คลังสินค้าที่จะต้องมาวางตู้ใดตู้หนึ่งก่อนทุกครั้ง”
สะพานท้ายระหว่างตู้กลไกลดเวลาขนส่งสู่ความสำเร็จ
คุณเสรีชัย เปิดเผยอีกว่า ได้คำนึงถึงเรื่องระยะเวลาการขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการทำงาน จึงเป็นสาเหตุที่ทาง เสรีชัยพัฒนา ออกแบบรถบรรทุกตู้ผ้าใบรุ่นใหม่นี้ลดระยะด้านการขนส่งลง ทั้งนี้เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการณ์ และยกระดับการขนส่งสิ้นค้าไทยให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้นใอนาคตอันใกล้นี้
“จากประสบการณ์อันยาวนานในวงการผลิตรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ได้ใช้วิศวกรเขียนแบบพัฒนาขึ้นมา และมีการคำนวนการเปิดปิดของสะพานท้ายไฮโดรลิคซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและได้รับความร่วมมือจากทาง HYVA ซึ่งเป็นกลไกสำคัญให้มีความสมบูรณ์แบบต่อการใช้งานและใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงสามารถพูดได้ว่า เสรีชัย พัฒนา เป็นโรงงานผลิตรถบรรทุกตู้ผ้าแม่-ลูก รุ่นนี้เจ้าแรกในประเทศไทย”
จากการทดสอบการใช้งานจริงซึ่งมีการคำนวนทุกนาทีคิดเป็นเป็นเงินมูลค่ามหาศาล ได้ลองคำนวณจากการโหลดสินค้าแบบเดิมปกติจะใช้เวลาอยู่ที่ 1 ชั่วโมง ต่อการโหลดสินค้าให้เต็มทั้งตัวแม่ตัวลูกและรวมเวลาเชื่อมต่อระบบลากจูงให้พร้อมวิ่ง เมื่อได้ทดลองใช้ตู้รุ่นใหม่นี้เวลาที่ใช้ในการโหลดสินค้าเหลือเพียง 40 นาที เท่านั้น ลองคำนวณเวลาที่เหลือ 20 นาที คูณจำนวนคัน จำนวนเที่ยว จำนวนวัน จำนวนปีให้ตัวเลขบนเครื่องคิดเลขของคุณ ตอบคำถามของการเปลี่ยนแปลงการขนส่งในครั้งนี้ คุณเสรีชัย กล่าวปิดท้าย