การพัฒนาสาธารณูปโภคที่สำคัญของประเทศกำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่การเดินทางจะเชื่อมต่อทุกภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ เมื่อการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ภายใต้การนำของนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. ประกาศแผนพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ 11 โครงการในช่วง 10 ปีข้างหน้า ครอบคลุมกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดภูมิภาค ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในปี 2571 และทยอยเปิดให้บริการจนถึงปี 2576
พัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ: ยุทธศาสตร์แก้ปัญหาจราจร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑลประสบปัญหาจราจรติดขัดอย่างรุนแรงเป็นเวลานาน การพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษจึงเป็นส่วนสำคัญในการแก้ปัญหานี้ กทพ. มีแผนก่อสร้างทางพิเศษที่เชื่อมต่อหลายเส้นทางหลัก เพื่อให้สามารถกระจายการจราจรออกจากใจกลางเมืองและลดปัญหาการติดขัดของยานพาหนะบนท้องถนน
หนึ่งในโครงการที่คืบหน้าไปมากคือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกฯ ด้านตะวันตก ซึ่งมีระยะทาง 18.7 กิโลเมตร และมีงบลงทุนสูงถึง 31,244 ล้านบาท ความคืบหน้าของโครงการนี้อยู่ที่ 82.77% เกินจากแผนที่ตั้งไว้ นับว่าเป็นเส้นทางที่คาดว่าจะเปิดใช้ได้เร็วที่สุดในปี 2571 นอกจากนี้ โครงการทางพิเศษฉลองรัฐส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา) ก็มีความก้าวหน้าสำคัญ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2571 เช่นกัน
ทางด่วนสองชั้นและอนาคตของการเดินทาง
อีกหนึ่งโครงการที่น่าสนใจคือ โครงการทางด่วนสองชั้น (Double Deck) จากงามวงศ์วานถึงพญาไท ที่จะเป็นเส้นทางระยะทาง 17 กิโลเมตร เพื่อแก้ปัญหาจราจรในบริเวณกรุงเทพฯ ตอนใน การออกแบบทางด่วนสองชั้นนี้จะเพิ่มพื้นที่จราจรอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้การเดินทางในกรุงเทพฯ ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โครงการนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้และเปิดใช้ในเดือนมกราคม 2572
การขยายสู่ภูมิภาค: ยกระดับการพัฒนาในจังหวัดท่องเที่ยว
นอกจากโครงการในกรุงเทพฯ แล้ว กทพ. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษในจังหวัดภูมิภาค โดยมีโครงการที่เป็นไฮไลท์คือ ทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอย่างหาดป่าตอง คาดว่าเส้นทางนี้จะเปิดให้บริการได้ในเดือนมกราคม 2573
นอกจากนี้ ยังมี โครงการทางพิเศษเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ จ.ภูเก็ต ระยะทาง 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญในการเชื่อมต่อระหว่างตัวเมืองภูเก็ตและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ โครงการนี้อยู่ในขั้นตอนศึกษารูปแบบการลงทุนร่วมกับเอกชน และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2573
การพัฒนาระยะยาว: ขยายขอบเขตการเชื่อมต่อ
แผนการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษยังครอบคลุมการเชื่อมต่อไปยังเกาะสำคัญของประเทศไทย เช่น โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย และ โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะช้าง ซึ่งเป็นโครงการที่มีระยะทางยาวและมีงบลงทุนสูง คาดว่าจะช่วยยกระดับการเดินทางและกระจายการพัฒนาสู่พื้นที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากขึ้นในอนาคต
การลงทุนเพื่ออนาคต: ความท้าทายและโอกาส
การพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรและยกระดับการเดินทางในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนในอนาคต การเชื่อมต่อทางถนนที่ดีขึ้นจะส่งผลโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า และการพัฒนาพื้นที่ภูมิภาค
กทพ. ได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันโครงการทั้งหมดนี้ให้สำเร็จตามแผนที่วางไว้ภายในปี 2576 ซึ่งจะเป็นการสร้างเครือข่ายการเดินทางที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานของไทย