โครงการอบรมคนขับรถใหญ่ หรือ โครงการพัฒนาผู้ขับขี่รถบรรทุกเพื่อการประหยัดพลังงานในธุรกิจขนส่งสินค้า ที่ทางสหพันธ์การขนส่งการขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ได้รับมอบหมายมาจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เพื่อให้ช่วยลดการใช้น้ำมันดีเซลของบรรดาผู้ประกอบการขนส่งทางบกทั่วทั้งประเทศให้ได้ปีละประมาณ 250 ล้านบาท/ปี ถือเป็นโครงการสำคัญระดับชาติ และบรรดากลุ่มขนส่งต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ดร.ชุมพล สายเชื้อ เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก เพราะทางกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ได้เข้ามาร่วมมือในโครงการดังกล่าวด้วย เนื่องจากกรมการขนส่งฯ ต้องการที่จะทำให้คนขับที่เข้าร่วมในโครงการนี้ มีจิตสำนึกที่จะเคราพกฎการจราจรทางบกเพิ่มมากขึ้น และเป็นมิตรกับเพื่อนร่วมถนนมากขึ้นไปอีก ส่วนกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นั้น ต้องการที่จะทำให้คนขับรถบรรทุก สามารถพัฒนาฝีมือการขับให้สูงขึ้น พร้อมทั้งหาอาชีพเสริมได้อีกด้วย
โดยกำหนดการอบรมคนขับรถบรรทุก จะเริ่มจากการทำพิธีเปิดโครงการ ด้วยการให้ผู้ใหญ่ของหน่วยงานราชการต่าง ๆ มาร่วมทำพิธีเปิด ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำพิธีเปิดได้ในช่วงปลายเดือนเมษายน 2561 นี้ หลังจากนั้น ก็จะดำเนินการอบรมคนขับรถบรรทุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งการฝึกอบรมและฝึกภาคปฏิบัติ ส่วนสถานที่จะสอนนั้น จะมีทั้งโรงเรียนสอนขับรถใหญ่ สำนักงานของสมาคมขนส่งทางบกต่าง ๆ รวมถึงสถานที่ทำงานของผู้ประกอบการขนส่งโดยตรง
และเพื่อพิสูจน์ว่า การอบรมคนขับรถบรรทุกนี้ จะได้ผลตามที่ได้วางไว้หรือไม่ จะมีการนำคนขับที่เข้าร่วมอบรมขนส่งสินค้าตามความเป็นจริง หลังจากนั้นก็จะมีอาจารย์จากสถาบันการศึกษาเข้าตรวจสอบการใช้น้ำมันจริง และจะนำมาเปรียบเทียบกับการใช้น้ำมันก่อนเข้าฝึกอกรม และหลังการฝึกอบรมก็จะรู้ว่า มีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงไร และเป็นไปตามที่ พพ. คาดไว้หรือไม่
เมื่อจบสิ้นแผนการทุกอย่างในปี 2561 แล้ว ด้วยจำนวนคนขับที่เข้าร่วมอบรม จำนวน 5,000 คน เมื่อทำงานจริงจะต้องลดการใช้น้ำมันดีเซลได้มากถึง 250 ล้านบาท/ปี ทางสหพันธ์การขนส่งฯ ก็จะดำเนินการอบรมคนขับต่อไปอีก 4 ปี เพื่อช่วยทำให้ประหยัดเงินในการนำเข้าน้ำมันดีเซลจากต่างชาติ ที่สำคัญยังจะช่วยลดค่าน้ำมันดีเซลปีละ 250 ล้านบาทอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุก ๆ ปีด้วย
ขณะที่ คุณอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง นายกสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ได้เตรียมความพร้อมที่จะดำเนินการอบรมคนขับของบรรดาผู้ประกอบการขนส่งทางบก ทั้งที่เป็นสมาชิกและไม่ได้เป็นสมาชิก และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางสหพันธ์การขนส่งฯ เป็นอย่างดี ตรงนี้ทางสมาคมฯ ได้เตรียมใช้พื้นที่ของสำนักงานที่มีมากกว่า 14 ไร่ เป็นการอบรมภาคปฏิบัติให้แก่ผู้ขับขี่ที่เข้ามาร่วมอบรม รวมถึงการใช้อาคารของสมาคมฯ เป็นที่อบรมภาคทฤษฎีให้แก่คนขับด้วย และยังมีการเลี้ยงอาหารให้กับผู้เข้าร่วมอบรมอีกด้วย เพื่อเป็นการทำให้ผู้ที่เข้าอบรมมาเพียงจุดเดียวก็ได้รับผลตอบแทนทุกอย่าง
“ถือได้ว่า โครงการอบรมคนขับรถใหญ่นี้ ทุกสมาคมขนส่งที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะการขนส่งทางบกถือว่าต้องใช้น้ำมันดีเซลเป็นจำนวนมาก หากคนขับทุกคนมีวิสัยทัศน์ที่จะลดการใช้น้ำมันลง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความเร็วที่เหมาะสม การปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด และรู้เทคนิคในการควบคุมรถเป็นอย่างดี นอกจากจะทำให้เถ้าแก่ลดค่าใช้จ่ายลงไปเป็นอย่างมากแล้ว ก็ยังจะทำให้ประเทศชาติมีการพัฒนาที่เพิ่มมากขึ้นด้วย เพราะไม่ต้องเสียค่านำเข้าน้ำมันดีเซลเป็นจำนวนมากเหมือนในปัจจุบันนี้”
