หลังทะยานขึ้นแท่นในฐานะ “แชมป์ตลาดรถใหญ่ยุโรปปี 60”อย่างเต็มภาคภูมิ พร้อมประกาศชัดถึงการเดินเครื่องกลยุทธ์ตลาดปี 61 เต็มสูบไปตั้งแต่ต้นแล้วนั้น ทั้งการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า ผุดระบบบริหารจัดการฟลีทรถ และแผนการบำรุงรักษาเพื่อการใช้งานเต็มประสิทธิภาพ พร้อมแตะคันเร่งพุ่งชนเป้า 790 คัน รวมถึงการเร่งสร้างโรงงานแห่งใหม่ให้แล้วเสร็จปลายปี การเปิดตัวรุ่นใหม่ และเตรียมปักหมุดศูนย์ฯแห่งที่ 11 ที่สมุทรสาคร
ทว่าล่าสุดภายในงานจัดกิจกรรมทดสอบรถบรรทุกสแกนเนีย (Test Drive) ให้กับสื่อมวลชน ณ ศูนย์ทดสอบการขับขี่รถยนต์ ไอดีไดรฟเวอร์ จ.สระบุรี Trans Time ขออัพเดทผลการดำเนินงานหลังผ่านไปแล้ว 5 เดือน ตลอดถึงประเด็นสำคัญๆดังที่เกริ่นไว้เบื้อนต้นจากบทสัมภาษณ์ 2 ผู้บริหาร นำโดยคุณสเตฟาน ดอร์สกี กรรมการผู้จัดการ และคุณภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด
ปลื้ม! 5 เดือนแรกกวาดยอดขาย 220 คัน
โดยคุณสเตฟาน เปิดเผยถึงยอดขายรถบรรทุกสแกนเนียหลังผ่านไปแล้ว 5 เดือนว่าเราขายไปแล้ว 220 คัน คาดการณ์ว่าทั้งปีสแกนเนียจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่เราได้วางไว้ 650 คัน ซึ่งหากเป็นไปตามเป้าก็เท่ากับเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นเกือบ 40 % เมื่อเทียบกับปี 60 และเรายังเดินหน้ากลยุทธ์การตลาดและแผนธุรกิจที่เราได้วางเอาไว้ทุกประกาศ
“สแกนเนีย ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้นโยบายเป้าหมายหลักที่เร่งผลักดันการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบการขนส่งที่ยั่งยืน พร้อมสร้างโลกแห่งการขับเคลื่อนที่ดีขึ้นสำหรับธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงช่วยเพิ่มผลกำไรของลูกค้าด้วยการนำเสนองานด้านผลิตภัณฑ์และบริการครบวงจร พร้อมเทคโนโลยีของสแกนเนียและบริการที่มีคุณภาพสูงมีประสิทธิภาพ เป็นแบรนด์ผู้นำด้านการประหยัดน้ำมัน และช่วยลดปริมาณไอเสียในอากาศ สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างการสร้างผลกำไรและความยั่งยืน”
ชูผลิตภัณฑ์-บริการครบวงจร สร้างตลาดอนาคตเข้มแข็งในไทย
คุณสเตฟาน กล่าวย้ำอีกว่า เป้าหมายของเรา คือการสนับสนุนให้ลูกค้าได้รับผลกำไร เรามีความสุขและภาคภูมิใจที่รถบรรทุกสแกนเนียได้รับการตอบรับอย่างดีในตลาดประเทศไทย ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นจากยานพาหนะที่มีสรรถนะที่ดีเยี่ยมและใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ตลอดจนงานบริการต่าง ๆจากผลการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม ทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับต่ำ จากการออกแบบสภาพแวดล้อมภายในหัวเก๋งตามหลักสรีระศาสตร์ ความปลอดภัยของรถสแกนเนียช่วยให้ลูกค้าของเราดึงดูดและรักษาคนขับรถที่ดีเอาไว้ได้
“ขณะที่งานด้านบริการก็มีลูกค้าจำนวนมากได้มองเห็นถึงความคุ้มค่าของการขยายอายุสัญญาซ่อมและบำรุงรักษาจาก 2 ปี เป็น 5 ปี ซึ่งเป็นการบริการที่เราได้นำเสนอให้กับลูกค้า และบ่งบอกถึงคุ้มค่าที่ทำให้ลูกค้ามีกำไรมากขึ้น ดังนั้น การเลือกใช้สแกนเนียจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป”
จ่อเปิดไลน์ผลิตในโรงงานใหม่ปลายปี 61 เผยโฉมรุ่นใหม่ NTG ต้นปี 62
ด้านคุณภูริวัทน์ กล่าวเสริมว่ากว่า 30 ปีที่สแกนเนียได้ดำเนินธุรกิจในไทย เราได้รับความไว้ใจจากลูกค้าคนไทยและเติบโตอย่างแข็งแกร่งในไทย และเราไม่หยุดนิ่งการพัฒนาตัวเองเพื่อรองรับกับการขยายตัวที่จะเกิดขึ้น นั่นหมายความว่าเราให้ความสำคัญกับประเทศไทยมา กและขณะนี้สแกนเนียกำลังลงทุนเพื่อขยายการบริการอย่างต่อเนื่อง โดยกำลังก่อสร้างศูนย์บริการแห่งที่ 11 สาขาใหม่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งพร้อมจะเปิดให้บริการต้นปี 62 ทำให้เครือข่ายงานด้านการบริการครอบคลุมและเข้มแข็งขึ้น
“ส่วนการเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่เราได้ทุ่มทุนก่อสร้างกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซนจังหวัดสมุทรปราการ โดยจะเริ่มดำเนินการเปิดไลน์การผลิตภายในสิ้นปีนี้ และเราเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทุกท่านทราบว่ารถบรรทุกรุ่นใหม่ก็พร้อมแล้วที่ทำการเปิดตัวต้นปี 62 เช่นเดียวกัน”
อย่างไรก็ดี คุณภูริวัทน์ กล่าวปิดท้ายว่ารถบรรทุกสแกนเนียรุ่นใหม่นี้มีชื่อว่า NTG (New Truck Generation)มาพร้อมกับความโดดเด่นและคุณค่าที่มากขึ้นให้กับลูกค้า ทั้งคุณภาพสินค้า สมรรถนะ และความประหยัดน้ำมัน ที่สำคัญยังเป็นการประกาศให้ทุกท่านทราบว่า ปี 61 นี้จะเป็นปีสุดท้ายที่ลูกค้าทุกท่านจะสามารถเป็นเจ้าของสแกนเนียรุ่น PGR (รุ่นปัจจุบัน)ได้
“ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นและความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ลูกค้าได้รับผลกำไรอย่างยั่งยืน ทำให้สแกนเนียมีมุมมองเชิงบวกสำหรับปี 61 และด้วยความพร้อมที่จะเปิดตัวรถบรรทุกสแกนเนียรุ่นใหม่ และการเปิดโรงงานแห่งใหม่ที่กำลังจะมาถึง ทำให้อนาคตของสแกนเนียในประเทศไทยน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีก”