กรมการขนส่งทางบก ระบุ!! การเก็บค่าสัมภาระเพิ่ม จำกัดเฉพาะรถแท็กซี่จดทะเบียนในกรุงเทพฯ ที่ให้บริการไป-กลับสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น ส่วนรถแท็กซี่ให้บริการรับ-ส่งในเมืองทั่วไปเก็บเฉพาะค่าโดยสารตามมิเตอร์ปกติ
นายธานี สืบฤกษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง กำหนดอัตราค่าบริการอื่น กรณีการจ้างโดยมีบริการพิเศษสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI-METER) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2563 นั้น ได้มีการกำหนดอัตราค่าบรรทุกสัมภาระไว้ โดยจำกัดเฉพาะการใช้บริการรถแท็กซี่จากท่าอากาศยานดอนเมือง หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือการจ้างจากสถานที่อื่นไปยังท่าอากาศยานดอนเมืองหรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเท่านั้น และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป ส่วนการใช้บริการรถแท็กซี่เส้นทางในเมืองทั่วไปที่ไม่ได้มีต้นทางหรือปลายทางไปยังท่าอากาศยานทั้งสองแห่ง จะมีเพียงค่าโดยสารตามมาตรค่าโดยสารที่ปรากฏตามปกติเท่านั้น ไม่มีการเก็บค่าสัมภาระเพิ่มแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สัมภาระตามประกาศกระทรวงฯ ดังกล่าว หมายถึง สินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่มีการบรรจุกล่อง กระเป๋า มัดรวม หรือบรรจุหีบห่อ และที่ไม่มีการบรรจุแต่มีขนาด ปริมาณ ความกว้าง ความสูงเกินกว่าจะเป็นสัมภาระติดตัว โดยมีรายละเอียดกำหนดอัตราค่าบริการ ซึ่งคนขับต้องแจ้งอัตราค่าบริการเพื่อให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าก่อนทำการรับจ้างทุกครั้ง ดังนี้
- สัมภาระขนาดใหญ่หรือกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่ง เกินกว่า 26 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท
- สัมภาระขนาดเล็กหรือกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก ที่มีขนาดความกว้าง ความยาว หรือความสูงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่เกิน 26 นิ้ว แต่มีจำนวนหลายชิ้น ให้เรียกเก็บค่าบริการตั้งแต่ชิ้นที่ 3 ขึ้นไป ในอัตราชิ้นละไม่เกิน 20 บาท
- อุปกรณ์การกีฬาจำพวก ถุงกอล์ฟ รถจักรยาน วินด์เซิร์ฟ หรือเครื่องดนตรี ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราชิ้นละไม่เกิน 100 บาท
- กรณีสัมภาระเป็นสินค้า สิ่งของ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่บรรจุกล่อง และที่มิได้มีการบรรจุกล่อง แต่มีการมัดรวมหรือหีบห่อรวมกันไว้ ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 50 นิ้วขึ้นไป ให้เรียกเก็บค่าบริการในอัตราที่บรรจุกล่อง มัดรวมหรือหีบห่อชิ้นละไม่เกิน 100 บาท
โดยในการวัดขนาดของสัมภาระ จะไม่วัดรวมล้อหรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนที่ เช่น กระเป๋าเดินทางที่มีล้อเลื่อนจะวัดขนาดแค่เพียงส่วนที่เป็นตัวกระเป๋านั้นโดยไม่รวมล้อ นอกจากนี้ จะไม่มีการจัดเก็บค่าบริการเพิ่มเติมในกรณีสัมภาระนั้นเป็น รถเข็น หรืออุปกรณ์สำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย เช่น วีลแชร์ ไม้เท้า รวมถึงสัมภาระติดตัว ที่อยู่ในความดูแลของผู้โดยสารระหว่างการเดินทาง เช่น กระเป๋าถือ กระเป๋าคอมพิวเตอร์ เป้สะพายหลัง โดยกรมการขนส่งทางบกได้ประสาน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ประชาสัมพันธ์รายละเอียดการใช้บริการรถแท็กซี่และอัตราค่าบริการสัมภาระให้ผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการรถแท็กซี่ทราบก่อนใช้บริการ
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ผู้ขับรถแท็กซี่ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงฯ และข้อกำหนดเพื่อความปลอดภัยในการให้บริการอย่างเคร่งครัด และตระหนักถึงความสำคัญของการให้บริการที่ดี ห้ามฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสารโดยเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบปัญหาจากการใช้บริการรถแท็กซี่
แจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือผ่านช่องทางออนไลน์อื่นๆ เช่น แอปพลิเคชันไลน์ @1584dlt หรือ เว็บไซต์ http://ins.dlt.go.th/cmpweb/ , อีเมล์: dlt_1584complain@hotmail.com , เฟซบุ๊ก 1584ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ