กพท.เผย 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไปบินเข้าไทยได้แล้วภายใต้เงื่อนไขสุดเข้ม ย้ำยังคงมาตรการป้องกันโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรอง และการจัดสถานที่ไว้กักกัน
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศ กพท. เรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังรุนแรงในต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการจำกัดการเดินทางเข้ามาในไทยให้สอดคล้องกับความสามารถในการจัดการคัดกรองของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรการป้องกันโรค เพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในประเทศ โดยมีเงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานบินผ่าน บินเข้า หรือออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลงในราชอาณาจักร ดังนี้
1.อากาศยานที่สามารถทำการบินผ่าน บินเข้าออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลง ในท่าอากาศยานที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศได้ เมื่อได้รับการอนุญาตการบินจาก กพท. ได้แก่
(1) อากาศยานราชการ หรือที่ใช้ในราชการทหาร
(2) อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน
(3) อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค โดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
(4) อากาศยานที่บินเพื่อช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือขนส่งสิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด –19
(5) อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้บินรับส่งบุคคลกลับไทย หรือกลับภูมิลำเนา
(6) อากาศยานขนส่งสินค้า
2.อากาศยานขนส่งคนโดยสารที่จะทำการบินผ่าน บินเข้าออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้นลงในท่าอากาศยานในราชอาณาจักรที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศ จะได้รับอนุญาตการบินจาก กพท.เฉพาะเมื่อผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรนั้นเป็นบุคคล ประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีเหตุยกเว้นหรือนายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินกำหนด อนุญาต หรือเชิญให้เข้ามาในราชอาณาจักรได้ตามความจำเป็น โดยอาจกำหนด เงื่อนไขและเงื่อนเวลา
(3) ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของผู้มีสัญชาติไทย
(4) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือได้รับอนุญาตให้มี ถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
(5) ผู้ไม่มีสัญชาติไทยซึ่งมีใบอนุญาตทำงาน หรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงาน ในราชอาณาจักรตามกฎหมาย ตลอดจนคู่สมรสหรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
(6) ผู้ขนส่งสินค้าตามความจำเป็น แต่เมื่อเสร็จภารกิจแล้วให้กลับออกไปโดยเร็ว
(7) ผู้ควบคุมยานพาหนะหรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ ซึ่งจาเป็นต้องเดินทางเข้ามาตามภารกิจ และมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชัดเจน
(8) ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาในไทย ที่ทางการไทยรับรอง ตลอดจนบิดามารดาหรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว
(9) ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งมีความจำเป็นต้องเข้ามารับการตรวจรักษาพยาบาลในไทย และผู้ติดตามของบุคคลดังกล่าว แต่ต้องไม่เป็นกรณีเข้ามาเพื่อการรักษาพยาบาลโรคโควิด –19
(10) บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้แทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศ ซึ่งมาปฏิบัติงานในไทย หรือบุคคลในหน่วยงานระหว่างประเทศอื่น ตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุญาตตามความจำเป็น ตลอดจนคู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว
(11) ผู้ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อตกลงพิเศษกับต่างประเทศ
และ 3.อากาศยาน และผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อ 2 ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลาและหลักเกณฑ์ของผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศและกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีผลบังคับใช้อยู่
เพื่อการป้องกันโรคและจัดระเบียบจำนวนบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรอง และการจัดสถานที่ไว้กักกัน ทั้งนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.63 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป