ท่ามกลางธุรกิจท่องเที่ยวเมืองไทยที่นับวันยิ่งสดใสทะยานเป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเต็มพิกัดต่อเนื่องทุกปี คาดการณ์ปี 2561 นี้จะมีนักท่องเที่ยวทั่วโลกแห่ท่องเที่ยวเมืองไทยกว่า 38 ล้านคน และเม็ดเงินสะพัดสูงถึง 2 ล้านล้านบาท ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวเหมารวมไปถึงทุกห่วงโซ่คุณค่าด้านการท่องเที่ยวเฟื่องฟูตามๆกัน
เช่นเดียวกับธุรกิจรถบัสให้บริการนักท่องเที่ยวก็คืออีกหนึ่งห่วงโซ่ธุรกิจที่พลอยได้รับอานิสงส์ไปเต็มเปา แม้ระยะหลังค่ายรถบัสจากแดนมังกรจะยึดหัวหาดตลาดรถบัสเมืองไทยไปแล้วก็ตาม ถึงกระนั้น ก็ยังมีกลุ่มตลาดบนอีกไม่น้อยที่ยังหลงใหลและเชื่อมั่นในค่ายรถบัสพรีเมี่ยมแบรนด์สายพันธุ์ยุโรป ที่โดดเด่นด้านประสิทธิภาพการใช้งานและมีความปลอดภัยสูง เป็นแรงหนุนให้บรรดาค่ายรถบัสหลากหลายสายพันธุ์เปิดศึกการตลาดกันสุดลิ่ม หวังช่วงชิงเค้กสัดส่วนการตลาดที่กองอยู่เบื้องหน้า
ล่าสุด วอลโว่ บัส(ประเทศไทย)ได้ฤกษ์เปิดตัวแชสซีรุ่นใหม่ VOLVO B8R เครื่องยนต์ 8 ลิตรขับเคลื่อนด้วยขุมกำลัง 330 แรงม้า เพื่อเป็นการทดแทน VOLVO B7R ที่มีเคยสร้างปรากฏการณ์ด้วยยอดจำหน่ายถล่มถลายไปแล้วกว่า 40,000 คันใน 65 ประเทศทั่วโลก ย้ำโดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ให้กำลังสูงขึ้น เติมเต็มด้วยประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด ผนวกด้วยระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนานขึ้นและอุดมด้วยอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยครบครัน ชูธง “ความปลอดภัยระดับสูง –ที่สุดแห่งยนตรกรรมคุณภาพ”
VOLVO B8R ชูธง ‘ที่สุด…ยนตรกรรมคุณภาพ!’
คุณกำลาภ ศิริกิตติวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าการเปิดตัวครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญของการดำเนินธุรกิจในสวีเดนครบ 90 ปี ขณะที่รถบัสโดยสารในประเทศไทยปีนี้ก็เป็นที่ 19 แล้ว และรถบัสวอลโว่ก็ถือเป็น “ผลิตภัณฑ์เรือธง” หนึ่งของวอลโว่ กรุ๊ปประเทศไทย
“ธุรกิจรถบัสในไทยในปีนี้เริ่มส่งสัญญาณเชิงบวกแล้ว ทั้งการคาดการการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจที่รัฐบาลตั้งเป้าที่ 4.2 % การโหมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่เริ่มเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวที่คาดการณ์นักท่องเที่ยวจะมุ่งหน้าสู่ไทยมากกว่า 38 ล้านคน เมื่อธุรกิจท่องเที่ยวไปได้สวย ความต้องการใช้รถบัสโดยสารก็ต้องเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการสอดรับกับการเปิดตัวแชสซีรุ่นใหม่ VOLVO B8R ในครั้งนี้”
ส่วนการสนับสนุนของวอลโว่ กรุ๊ปนั้น คุณกำลาภ ระบุว่า เรามีโรงงานประกอบที่ไทยที่ลงทุนไปกว่า 2 พันล้านบาท ที่มีกำลังการผลิต 1 หมื่นคันต่อปี ทั้งรถบรรทุก หัวลาก และรถบัส จัดจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปขายทั่วโลก เป็นโรงงานที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เน้นศักยภาพและประสิทธิภาพการผลิต และความปลอดภัยสูง ลูกค้าวอลโว่มั่นใจได้ในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา
“ส่วนการบริการหลังการขาย ก็เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่เราอยากสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ณ วันนี้เรามี 14 ศูนย์บริการครบวงจรกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ละแห่งเพียบพร้อมด้วยทีมช่างที่ชำนาญการ และการให้บริการหลังการขายครบวงจร”
สแกนเนีย มัดใจลูกค้าด้วย “ระบบ FMS และแผนบำรุงรักษา Flex”
ขณะที่ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง สแกนเนีย อีกหนึ่งค่ายรถบัสสายพันธุ์ยุโรปจากสวีเดน ที่อยู่คู่กับวงล้อธุรกิจขนส่งเมืองไทยมาอย่างยาวนาน โดยแหล่งข่าวระดับสูงจากสแกนเนีย เปิดเผยว่าปีนี้สแกนเนียได้วางเป้าขายของรถโดยสารไว้จำนวน 140 คัน จากปีที่แล้วที่ขายได้ 137 คัน โดยมีหลากรุ่นให้เลือกตามลักษณะการใช้งาน หากเป็นรถบัสไม่ประจำทาง ขอแนะนำแชสซี K310 ที่ได้รับความนิยมมากสุด
“ในส่วนของการบริการหลังการขายนั้น สแกนเนีย เน้นย้ำมาตลอดก็คือการบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้วางใจกับรถสแกนเนีย และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยดันให้สแกนเนียผงาดขึ้นมาเป็นเจ้าตลาดรถใหญ่ยุโรปในเมืองไทยเป็นปีแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอบรมพนักงานขับรถบัสโดยสารสแกนเนีย ซึ่งได้มีการจัดอบรมให้กับลูกค้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อเป็นเติมเต็มให้คนขับได้เรียนรู้และทักษะการขับรถสแกนเนียได้เต็มประสิทธิภาพการใช้งาน”
Scania Touring
S๖dertไlje, Sweden
Photo: Dan Boman 2009
นอกจากนี้ สแกนเนีย ยังให้บริการลูกค้าด้วยระบบบริหารจัดการฟลีตรถ หรือ Fleet Management System (FMS) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการฟลีทรถลูกค้า ซึ่งลูกค้าสามารถทราบได้ว่ารถแต่ละคันของลูกค้า ณ ขณะนั้นวิ่งงานอยู่ที่ใด อัตราการใช้เชื้อเพลิงเป็นอย่างไร พฤติกรรมการขับขี่เป็นอย่างไร สามารถนำผลมาวิเคราะห์และปรับปรุงเพื่อพัฒนาในการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และกรณีฉุกเฉิน บริษัทฯ สามารถใช้เทคโนโลยีในระบบนี้เข้าไปดู เพื่อเตรียมเครื่องมือและอะไหล่ สามารถนำไปแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้รถลูกค้ามีความพร้อมสามารถกลับไปวิ่งงานได้อย่างรวดเร็วที่สุด
“ส่วนลูกค้าที่ทำสัญญาซ่อมและบำรุงรักษา หรือ Repair and Maintenance Contract (R&M) กับสแกนเนีย สามารถรับบริการแผนการบำรุงรักษาเพื่อการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ (Flex) โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเอาเวลาที่จะต้องดูแลรถ ไปบริหารธุรกิจได้อย่างเต็มที่ และปล่อยหน้าที่ดูแลรถให้กับเราทำหน้าที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและผลกำไรของลูกค้าให้อย่างยั่งยืนต่อไป”
ค่ายดาวสามแฉก เตรียมเปิดตัวรถบัส 12 และ 14 เมตร
ฟากค่ายเมอร์เซเดส–เบนซ์จากเยอรมัน โดยคุณสุวิช วทานิยปราโมทย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย ทรัค จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถโดยสารเมอร์เซเดส–เบนซ์ เปิดเผยว่าตอนนี้เราทำตลาดกับแชสซีรุ่น OF917 และเมื่อปีที่แล้วเราสามารถทำยอดขายได้ถึง 70 คัน ส่วนปีนี้ได้วางเป้าหมายการจำหน่ายไว้ที่ 100 คัน
“ปีนี้เราจะขยายไปกลุ่มลูกค้าอื่นมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นรถมินิบัสประจำทาง รถทัวร์ และรถรับ–ส่งพนักงานที่มีความยาวตั้งแต่ 8 เมตร และ 9 เมตร ที่สามารถบรรจุผู้โดยสารได้มากถึง 25 คน โดยเราเตรียมรุกตลาดเต็มสูบด้วยรถบัสโดยสารเครื่องยนต์ 360 แรงม้า ขนาด 12 เมตร และเครื่องยนต์ 400 แร้งม้าขึ้นไป ขนาด 14 เมตร”
นอกจากนี้ คุณสุวิช กล่าวอีกว่ารถโดยสารเครื่องยนต์ 360 แรงม้า ขนาด 12 เมตร จะใช้เจาะกลุ่มผู้ประกอบการทั้งรถโดยสารประจำทางและไม่ประจำทาง รวมถึงบริษัท ขนส่ง จำกัด หรือ บขส.ซึ่งในปีนี้จะทำการประมูลรถโดยสารขนาด 12 เมตรมากกว่า 300 คัน ส่วนรถโดยสารเครื่องยนต์ 400 แรงม้า ขนาด 14 เมตร ถือเป็นการปรับโฉมใหม่ของบริษัทแม่จากประเทศเยอรมนี
MAN เตรียมเปิดตัวรถบัสปรับโฉมใหม่!
ขณะที่ค่าย MAN อีกหนึ่งค่ายรถบัสพันธุ์แกร่งจากเยอรมัน โดยคุณธนภัทร อินทวิพันธุ์” กรรมการบริหาร บริษัท MAN Commercial Vehicle (Thailand) จำกัด หรือ MCVT เปิดเผยว่า ปีนี้เราวางเป้าขายรถบัสโดยสารไว้ที่ 50 คันขึ้นไป โดยมีรถหลายขนาดให้ลูกค้าเลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ 460 แรงม้า ขนาด 13.8 เมตร และ 15 เมตร จะเน้นลูกค้าที่ต้องการขนส่งผู้โดยสารระยะทางไกล ส่วนเครื่องยนต์ 360 แรงม้า ขนาด 10 เมตร และ 12 เมตร จะเจาะกลุ่มขนส่งผู้โดยสารระยะทางไม่ไกลมาก และวิ่งในตัวเมืองขนาดใหญ่ได้สะดวก
“เราภูมิใจนำเสนอรถบัส รุ่น R40 ขนาด 13.8 เมตร เป็นรถที่เหมาะสำหรับการวิ่งระยะยาว ที่มีความปลอดภัยสูงสุด ประกอบกับเทคโนโลยีและอุปกรณ์ของ MAN จึงถือว่ามีความปลอดภัยสูงสุดเป็นอย่างมาก ทั้งระบบ EBD ระบบ ABS ระบบเบรกอัตโนมัติใน กรณีรถออกนอกเส้นทางเข้าโค้ง ล้อจะล็อคอัตโนมัติและลดความเร็วเอง เพราะ MAN ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่า เป็นรถที่มีความปลอดภัยสูงสุด และมีความนิ่มนวลเป็นอันดับหนึ่ง”
The NEOPLAN Starliner L features MAN PURE DIESEL the active damping system NEOPLAN CDS in series and also Man D26 Common Rail engines in EEV Standard from 2009 on. It has won the title Coach of the year 2006.
DE: Der NEOPLAN Starliner L bietet MAN PURE DIESEL Common Rail Motoren in EEV Qualität und das serienmaessige, aktive Fahrwerk NEOPLAN CDS. Er gewann den Titel “Coach of the Year 2006”.
UK: The NEOPLAN Starliner L features MAN PURE DIESEL the active damping system NEOPLAN CDS in series and also Man D26 Common Rail engines in EEV Standard from 2009 on. It has won the title Coach of the year 2006.
อย่างไรก็ดี คุณธนภัทร กล่าวปิดท้ายว่าปีนี้เราเตรียมเปิดตัวรถบัสโฉมใหม่ คือ รถบัสเครื่องยนต์360 แรงม้า ซึ่งได้รับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีให้สูงขึ้นกว่ารุ่นเดิม แถมมีราคาจำหน่ายที่เหมาะสม ส่วนการขยายศูนย์บริการและดีลเลอร์ว่าตอนนี้เรามีศูนย์บริการและดีลเลอร์อยู่ 4 แห่ง ซึ่งดีลเลอร์ก็มีรายใหญ่อย่าง K-MAN ที่เปิดให้บริการอย่างครบวงจร อีกทั้งเรายังมีทีซีออโต้ฮับอีก 3 แห่ง คือโคราช ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ เราต้องเร่งขยายศูนย์ฯและดีลเลอร์ให้ครอบคลุมทั่วทุกภาคให้มากที่สุด โดยปีหน้าเราตั้งเป้าไว้ถึง 10 แห่ง
ทั้งหมดเป็นแค่หนังตัวอย่างจากค่ายรถบัสสายพันธุ์ยุโรปเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายค่ายหลายสายพันธุ์ที่รอป่วนตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาค่ายรถจีนที่ไหลบ่าบุกตลาดเมืองไทยจนผงาดครองเจ้าตลาดได้เบ็ดเสร็จ เป็นงานหินที่ค่ายรถจากญี่ปุ่นและยุโรปจะโค่นจากบัลลังก์ได้
ถือเป็นการเปิดศึกชิงเค้กก้อนโตรับธุรกิจท่องเที่ยวบูมกันสุดลิ่ม ใครจะเข้าวินรอดูฉากสุดท้ายตอนปลายปี!
