หากเปรียบ“วี คาร์โก”กรุ๊ปผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรชั้นแถวหน้าเมืองไทยเป็นหนังจีนกำลังภายในคงเป็นหนังเรื่องใหญ่ที่มีฉากประลองยุทธที่สนุกและน่าตื่นเต้นชวนติดตามอีกหลายฉาก!
ทวนเข็มนาฬิกากลับไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้วคงพอจำกันได้กับฉากบู๊ลิ้ม“เสริมเขี้ยวเล็บ-เติมเต็มศักยภาพ“โดยมีท่านเจ้าสำนักอย่างคุณกฤษณพงศ์(อุดม) ศรีสงคราม ที่ออกโรงโชว์“วิทยายุทธ TMS” (Transport Management System)ระบบเทคโนโลยีดิจิตอลและไซเบอร์ Version 2 ที่เป็นแรงขับให้กลุ่มวี คาร์โก สามารถบริหารจัดเส้นทางการขนส่ง(Routing)อัตโนมัติจากต้นทางไปถึงมือลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนขนส่ง และลดการใช้ทรัพยากรทั้งเวลาและพลังงานเชื้อเพลิง
พร้อมฉากเปิดตัวทายาทธุรกิจที่ถูกฉายภาพเป็นตัวอย่างบางตอนที่เริ่มจากทายาทคนโต“คุณยู-อัศรี ศรีสงคราม”รองกรรมการผู้จัดการ พี่ใหญ่ใน 3 ทายาทศรีสงคราม Gen 2 ที่จะเข้ามารับไม้ต่อจาก Gen 1 ผู้เป็นบิดาอย่างคุณกฤษณพงศ์ที่ได้วางรากฐานกลุ่มวี คาร์โก ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จากปฐมบทธุรกิจชิปปิ้งมีรถขนส่งเพียง 4 คันเมื่อ 32 ปีที่แล้วมาถึงวันนี้มีฟลีทรถทุกชนิดทุกประเภทแล้วกว่า 1 พันคัน มีพนักงาน-บุคลากรกว่า 1 พันคนมีรายได้ในแต่ละปีนับพันล้านบาท และมีแผนสยายปีกธุรกิจใหม่ๆและความร่วมมือไปยังประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนลากยาวไปถึงจีนแผ่นดินใหญ่ในอนาคตอันใกล้
ที่ปัจจุบันคุณกฤษณพงศ์ได้ปักหลักเป็นกุนซือถ่ายทอดวิทยายุทธเชิงธุรกิจให้กับลูกๆที่เริ่มเข้ามาช่วยงานให้มีภูมิรู้เป็นเกราะป้องกันอย่างไร้รอยต่อ พร้อมที่จะเคลื่อนทัพนำกำลังพลออกไปท่องยุทธจักรธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เมืองไทยสู้ศึกกับคู่แข่งทั้งไทยและเทศได้อย่างสมศักดิ์ศรี!
มาคราวนี้กลุ่มวีคาร์โกได้ฉายภาพฉากใหญ่ไฟกะพริบด้วยการปรับโครงสร้างการบริหาร พร้อมทั้งแต่งตั้ง 3 ผู้บริหาร Gen2 กรีธาทัพบุกเบิกธุรกิจใหม่ๆหวังสร้างความแข็งแกร่งแก่องค์กรระยะยาว วางพี่ใหญ่“อัศรี”นั่งแท่นกุมบังเหียนดูภาพรวม น้องรอง“สิริพักตร์”กุมทัพการตลาด ส่วนน้องเล็ก“ชัยยศ”กุมทัพพัฒนาธุรกิจ แท็กทีม 3 ประสานพี่น้องขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ พร้อมทุ่ม 20 ล้านขยายธุรกิจคลังสินค้าย่านลาดกระบังรองรับแผนการเติบโตระยะยาว ก้าวสู่ผู้ให้บริการลูกค้า 3PL (Third-Party Logistics)ในอนาคต กรุยทางสู่การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯพุ่งเป้าโตโดยไม่มีข้อจำกัด
กรีธาทัพ 3 ผู้บริหาร Gen2 เคลื่อนพลโตทั้งแนวดิ่ง-ราบ
คุณกฤษณพงศ์ ศรีสงคราม กรรมการผู้จัดการ ในฐานะแม่ทัพกลุ่มบริษัท วี คาร์โก ได้ฉายภาพการปรับโครงสร้างการบริหารครั้งนี้ว่าคณะกรรมการบริหารมีมติแต่งตั้งคณะผู้บริหารชุดใหม่ 3 คน ได้แก่ “อัศรี ศรีสงคราม” เป็นรองกรรมการผู้จัดการ “สิริพักตร์ ศรีสงคราม” เป็นรองกรรมการผู้จัดการ และ “ชัยยศ ศรีสงคราม” เป็นรองกรรมการผู้จัดการ
“ผู้บริหารรุ่นใหม่ทั้ง 3 คนนี้จะเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 2 ที่ผมได้เฝ้ามองมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งที่ผ่านมาแต่ละคนจะมีความถนัดเฉพาะตัวของแต่ละคน มีความรับผิดชอบสูงขึ้นตามตำแหน่งและรวมทีมกันแล้วก็จะเป็นโอกาสของผมที่จะได้มองภาพรวมและแนะนำทิศทางการพัฒนาให้กับคนหนุ่มสาวทั้ง 3คนเพื่อพัฒนาองค์กรให้เติบโตทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ”
แม่ทัพกลุ่มวี คาร์โก สะท้อนมุมมองถึงการมอบหมายงานให้ 3 ทายาทธุรกิจในความรับผิดชอบที่ต่างกันว่าลูกสาวคนโต(อัศรี)จะเป็นผู้บริหารที่รับผิดชอบภาพรวมขององค์กรขณะที่ลูกสาวคนรอง(สิริพักตร์)รับผิดชอบด้านการตลาด และลูกชายคนเล็ก(ชัยยศ)จะรับผิดชอบด้านการพัฒนาธุรกิจ (Business Development) โดยทั้ง3ผู้บริหารจะร่วมกันทำงานเป็นทีมเพื่อหาข้อสรุปในแต่ละนโยบายนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ซึ่งมติในคณะกรรมการบริหารจะนำไปสู่ภาคปฏิบัติที่ผู้บริหาร 3 คนจะนำไปดำเนินการต่อไป
“ล่าสุดเราเดินหน้าแล้วคือการลงทุนมากกว่า 20 ล้านบาทในการเช่าพื้นที่ขนาด 3,200 ตรม.บริเวณลาดกระบังเพื่อทำเป็นคลังสินค้าเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป ตอนนี้พื้นที่นี้เราพัฒนาเสร็จสมบูรณ์เมื่อปลายปีที่แล้ว และพร้อมให้บริการตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป ลูกค้ารายแรกของเราในส่วนของธุรกิจคลังสินค้าคือองค์การเภสัช”
“พี่ใหญ่”ย้ำขยายธุรกิจ‘คลังสินค้า’ปูทางสู่ 3PL
ด้านคุณอัศรี ศรีสงคราม รองกรรมการผู้จัดการ ดีกรีปริญญาตรีนิเทศศาสตร์จากรั้วจามจุรี และปริญญาโทด้าน MS Marketing จากอเมริกา และกำลังศึกษาต่อป.โทอีกใบด้านการจัดการโลจิสติกส์จากจุฬาฯในฐานะพี่ใหญ่ที่ได้รับไว้ใจให้กุมบังเหียนดูภาพรวม สำทับมุมมองในประเด็นธุรกิจคลังสินค้าว่าถือเป็นการลงทุนสำคัญที่จะสร้างองค์กรของ วี คาร์โก ให้เข้าสู่ 3PL หรือผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ครบวงจร หมายความว่าในอนาคต วี คาร์โก จะไม่ใช่เป็นเพียงผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์เพียงอย่างเดียว แต่เราจะเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ที่ครบวงจร
“เพราะนอกเหนือจากการขนส่งและกระจายสินค้าให้กับลูกค้าแล้ว ต่อไปในอนาคตเราจะเป็นผู้บริหารคลังสินค้าให้ลูกค้าด้วย แต่ตอนนี้เราเริ่มต้นให้บริการคลังสินค้า และขณะนี้เราอยู่ระหว่างการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ (DC-Distribution Center) ที่วังน้อย ซึ่งจะเป็นคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิด้วย และเมื่อวันที่เราพร้อมให้บริการด้านการบริหารคลังสินค้า เราก็จะก้าวเข้าสู่ 3PL อย่างเต็มรูปแบบ วันนี้เรียกได้ว่าเราย่างก้าวแรกที่มั่นคงแล้ว”
คุณอัศรี ย้ำอีกว่าตั้งแต่เข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัว คุณพ่อ-คุณแม่ก็จะคอยเน้นย้ำอยู่เสมอว่าเราเป็นบริษัทโลจิสติกส์คนไทยที่มุ่งหวังพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพเทียบเท่าที่สามารถแข่งขันได้กับบริษัทข้ามชาติ เมื่อเราเติบโตและเข้มแข็งมีมาตรฐานสากลแล้วก็อยากจะช่วยบริษัทคนไทยด้วยกันเอง โดยนำเสนอเทคโนโลยีบริการในราคาและต้นทุนที่คนไทยเราอยู่ได้ มีกำไร และเติบโตไปด้วยกัน
“น้องเล็ก”ชี้!ต้องขยายทั้งเชิงลึก-แนวกว้าง
ขณะที่น้องนุชคนสุดท้องอย่างคุณชัยยศ ศรีสงคราม รองกรรมการผู้จัดการ ดีกรีปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์ภาคเคมีประยุกต์ (BSAC)จากรั้วจามจุรี ในฐานะผู้กุมทัพด้านการพัฒนาธุรกิจ ตอกย้ำมุมมองถึงการลงทุนด้านคลังสินค้าว่าถือเป็นก้าวแรกของการพัฒนาองค์กร วี คาร์โก เข้าสู่แผนพัฒนาธุรกิจระยะยาวขององค์กร ที่จะให้บริการแบบครบวงจรจากเดิมที่เราเริ่มต้นธุรกิจด้านชิปปิ้งเพียงอย่างเดียวมานานกว่า 30 ปี ต่อมาได้ขยายการให้บริการด้านการขนส่งภายหลังจากการตั้งบริษัทประมาณ 7-8 ปี และการขยายธุรกิจของ วี คาร์โก โดยส่วนใหญ่จะเป็นการขยายเชิงลึกคือการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยในแต่ละช่วงเวลามาให้บริการแก่ลูกค้า แต่ขณะนี้ วี คาร์โก กำลังขยายไปในแนวกว้างคือการเข้าสู่ธุรกิจการให้บริการคลังสินค้า และในระยะยาวจะขยายธุรกิจไปยังการให้บริการด้านการบริหารคลังสินค้า ซึ่งเป็นการขยายแนวกว้าง
“ผมว่ามันถึงเวลาแล้วครับที่เราจะต้องเริ่มเอาจริงเอาจังกับการขยายแนวกว้างออกไปเพื่อให้องค์กรสามารถขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางยิ่งขึ้นและเพื่อความมั่นคงในธุรกิจของ วี คาร์โก”
“น้องรอง”ระบุ!การตลาดยุคใหม่ต้องสอดรับเทคโนโลยียุคใหม่
ส่วนน้องรองอย่างคุณสิริพักตร์ ศรีสงคราม รองกรรมการผู้จัดการ ในฐานะผู้ได้รับความไว้วางใจให้กุมทัพด้านการตลาด ได้ฉายภาพนโยบายการขยายตลาดว่าปัจจุบันลูกค้าหลักๆของ วี คาร์โกเป็นองค์กรใหญ่ที่มีความมั่นคงแข็งแรง แต่จากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด19 นี้ ถือเป็นตัวเร่งที่ทำให้ วี คาร์โก ต้องเร่งขยายตลาด โดยจะต้องหาลูกค้ารายใหม่ๆเพิ่มเติม ในขณะเดียวกันจะต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าปัจจุบันที่กำลังถูกท้าทายด้วยเทคโนโลยียุคใหม่
“เราเองต้องมีความพร้อมที่จะทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ตอนนี้เราถูก โควิด19 เร่งให้เราต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้นเพราะลูกค้าปัจจุบันของเรากำลังถูก Disrupt ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรค ขณะเดียวกันก็ถูกกระแสเทคโนโลยีกดดันอย่างรุนแรง ทำให้ลูกค้าเราเองก็ขยายการให้บริการจากในอดีตมีเพียง Off Line มาสู่ Online ด้วย เราเองก็ต้องพร้อมที่จะเข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าในการฟันฝ่าวิกฤติครั้งนี้ด้วยเช่นกัน”
“แม่ทัพ”ให้โจทย์ Gen 2 นำ‘วี คาร์โก’เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯหนุนโตระยะยาว
อย่างไรก็ดี คุณกฤษณพงศ์ สรุปทิ้งท้ายว่าการมีทีมงานผู้บริหารหนุ่มสาวเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับ วี คาร์โก ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะพัฒนา วี คาร์โก เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งการเติบโตจากนี้ไป จะต้องเติบโตทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ โดยแนวดิ่งคณะผู้บริหารชุดใหม่มีนโยบายที่จะหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์มาพัฒนาการให้บริการที่ดีและมั่นคง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น ให้มาเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นมากขึ้น เพื่อพัฒนาระบบไอทีของ วี คาร์โก ให้อยู่ในระดับแนวหน้า ทั้งหมดก็เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนก้าวสู่ความเป็นบริษัทโลจิสติกส์คนไทยที่ได้ชื่อว่ามีการบริการที่เป็นเลิศ
“ในเวลาเดียวกัน ผมก็ให้โจทย์กับผู้บริหารชุดนี้ว่าจะทำอย่างไรให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงถาวรในระยะยาว ทั้งในเรื่องการบริหารงานและการลงทุน ดังนั้น โจทย์สำคัญต่อไปคือการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อยกระดับองค์กรให้อยู่แถวหน้าของธุรกิจนี้ อีกทั้งยังจะเป็นเครื่องมือในการผลักดันองค์กรให้เติบโตโดยไม่มีข้อจำกัด”
กลุ่มบริษัท วี คาร์โก ได้โลดแล่นอยู่ในยุทธจักรธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เมืองไทยมาอย่างยาวนานถึง 32 ปี ถือว่า…ไม่ธรรมดา! และปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญเข้าสู่ปี 33 กับการตะบันวงล้อธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า
เหนือกว่านั้นคือการถ่ายทอดสรรพวิชาโดยกุนซือ Gen 1 ให้กับผู้บริหาร Gen 2 ได้รับไม้ต่อพร้อมกรีธาทัพเคลื่อนพลสู้ศึกกับคู่แข่งได้ทั้งไทยและเทศ พุ่งชนเป้าหมายเติบโตโดยไม่มีข้อจำกัด ถือว่าเป็น”ความท้าทาย”…ไม่ธรรมดกยกกำลังสองที่รออยู่!
:วิหคไพร