สแกนเนีย เปิดตัวเข้าสู่ยุคใหม่(The Next Generation Scania)อย่างเป็นทางการทั่วประเทศกับรถบรรทุกรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับงานบริการรูปแบบใหม่ที่ครอบคลุม เพิ่มผลกำไรธุรกิจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ดันประเทศไทยสู่ระบบการขนส่งที่ยั่งยืน พร้อมจัดทริปสแกนเนียโรดโชว์ ดีเดย์ศูนย์ฯหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเป็นที่แรกในเดือนพฤษภาคม และเตรียมจัดในจังหวัดอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง
นายภูริวัทน์ รักอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภูมิภาค บริษัท สแกนเนีย สยาม จำกัด กล่าวว่าการจัดแสดงรถบรรทุกสแกนเนียรุ่นใหม่ล่าสุดทั่วประเทศ (Scania Roadshow)เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเดิมและเปิดทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าใหม่โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งที่อยู่ในภาคต่างของประเทศไทยได้มีโอกาสสัมผัสและทดสอบประสิทธิภาพของรถบรรทุกสแกนเนียรุ่นให้ล่าสุดมากยิ่งขึ้นอย่างใกล้ชิดสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ขับขี่ พร้อมชมนิทรรศการความเป็นมาของรถบรรทุกสแกนเนียรุ่นใหม่ และร่วมทดลองขับขี่กับทีมอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยสามารถติดตามรายละเอียดการจัดงานได้ที่ www.facebook.com/scaniathailandgroup
บูรณาการทุกจุดแข็งไว้ในสแกนเนียรุ่นใหม่
นายภูริวัทน์ เปิดเผยถึงรถบรรทุกสแกนเนียรุ่นใหม่ว่าสแกนเนียใช้เวลานานนับ 20 ปีในการพัฒนารถบรรทุกรุ่นใหม่ซึ่งผ่านการทดสอบจากทั่วทุกมุมโลก ทุกสภาพอากาศ ทุกภูมิประเทศและการใช้งานจริงมากกว่า 12 ล้านกิโลเมตรทั่วโลก เราสร้างจุดแข็งในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะวิธีการรูปแบบต่าง ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์การขนส่งได้ดียิ่งขึ้นเริ่มจากมาตรฐานการเชื่อมต่อสัญญาณของรถบรรทุกเพื่อการบริหารฟลีทรถ
“อีกทั้งยังยกระดับบริการหลังการขายด้วยสัญญาการบำรุงรักษาเพื่อการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ(Scania Flexible Maintenance) ระบบจะเก็บข้อมูลการทำงานของรถแบบเรียลไทม์ทำให้สามารถคำนวณระยะเวลาที่เหมาะสมในนำรถเข้าบำรุงรักษา ซึ่งรถแต่ละคันจะมีรอบการเข้าบำรุงรักษาที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ทั้งน้ำหนักบรรทุก ระยะทาง ภูมิประเทศฯลฯ ทั้งนี้จึงไม่จำเป็นว่าจะต้องนำรถเข้าบำรุงรักษาทุกๆ 45,000 กิโลเมตร อาจจะเป็นรอบ60,000 กิโลเมตร นอกจากรถจะมีระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องแล้ว การบำรุงรักษาในระยะเวลาที่เหมาะสมยังทำให้รถมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว”
ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีขึ้นถึง 5%
นายภูริวัทน์ กล่าวอีกว่า รถบรรทุกรุ่นใหม่นี้ ผ่านการทดสอบทั่วทั้งทวีปยุโรป ได้รับรางวัลมากมายถูกกล่าวว่าเป็นรถที่ดีที่สุด และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าของเราทั่วโลก ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงระบบความปลอดภัยการใช้เชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะความสะดวกสบายห้องโดยสารแบบใหม่ ที่มีทัศนวิสัยการมองเห็นนอกรถได้ดียิ่งขึ้น ภายในโอ่โถงด้วยความสูงที่เพิ่มขึ้นถึง10 เซนติเมตร ช่วยให้บรรยากาศในการขับขี่ดีเยี่ยม
“อีกทั้งการออกแบบตามสรีระศาสตร์เหมาะกับท่าทางการขับขี่ในทุกขนาดร่างกายปุ่ม คันโยก ที่เก็บของ ถูกออกแบบให้อยู่ตำแหน่งที่เหมาะสม ง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ระบบส่งกำลังของรถที่เป็นดังหัวใจของสแกนเนีย ก็ได้ปรับปรุงเช่นกัน โดยได้ปรับเปลี่ยนห้องเผาไหม้และฝาสูบเครื่องยนต์การปรับระบบหล่อเย็นที่ดีขึ้นการปรับระบบเกียร์ออพติครูสของสแกนเนีย พร้อมระบบเบรคไอเสีย เพื่อให้เครื่องเดินเรียบขึ้น เปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้น ซึ่งเมื่อรวมกับการออกแบบภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์รถบรรทุกรุ่นใหม่ของสแกนเนียสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีขึ้นถึง 5%”
รถใหญ่ค่ายแรกใช้ระบบถุงลมนิรภัยด้านข้าง
นายภูริวัทน์ กล่าวย้ำว่าความปลอดภัยของรถบรรทุกสแกนเนียรุ่นใหม่ มีระบบเบรคที่ดีขึ้นเมื่อขับอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถเบรคระยะได้สั้นลง 2 เมตร ระบบเบรคฉุกเฉินแบบล่วงหน้า (Advance Emergency Break)ด้วยเรดาร์และกล้องช่วยให้ลดความเสี่ยงการชนแชสซีส์ใหม่ที่ซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น
“สแกนเนียเป็นแบรนด์รถบรรทุกรายแรกในตลาดที่มีระบบถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับกรณีรถเสียการทรงตัวพลิกคว่ำ และในยามที่คุณภาพอากาศในประเทศไทยย่ำแย่เต็มไปด้วยฝุ่นควันและมลพิษ รถบรรทุกสแกนเนียรุ่นใหม่นอกจากประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิงแล้วยังลดมลพิษ ทำให้สิ่งแวดล้อมด้านการขนส่งดีขึ้นอย่างยั่งยืนนอกจากนี้ยังมีบริการด้านการเงิน ประกันภัยและสัญญางานบริการที่ครบวงจร”
นายภูริวัทน์ กล่าวปิดท้ายว่ารถบรรทุกสแกนเนียรุ่นใหม่ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งทั่วโลก โดยได้ส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากขึ้นในประเทศที่เราได้เปิดตัวไปแล้ว จนถึงทุกวันนี้ เราได้ส่งมอบรถบรรทุกรุ่นใหม่ไปแล้วกว่า 80,000 คันทั่วโลก และได้รับเสียงตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าที่ใช้งานจริง