นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจในเดือนส.ค.2563 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศจำนวน 5,538 ราย เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ลดลง 2% และเทียบเดือนส.ค.2562 ลดลง 7% เนื่องจากผู้ประกอบการยังกังวลสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ทิศทางเริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว รัฐบาลเร่งกระตุ้นการใช้จ่าย เร่งการลงทุน และมีมาตรการเยียวยาออกมาต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการมีความมั่นใจในการทำธุรกิจเพิ่มขึ้น
สำหรับธุรกิจที่มีการตั้งใหม่ในเดือนส.ค.2563 สูงสุด 3 อันดับแรก คือ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ การขนส่งและขนถ่ายสินค้ารวมถึงคนโดยสาร ซึ่งเป็นธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่อง ในช่วงโควิด-19 นับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 เป็นต้นมา และคาดว่าจะมีแนวโน้มโตต่อเนื่อง โดยมีทุนจดทะเบียนมูลค่า 14,316 ล้านบาท
ขณะที่ยอดรวมการจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วง 8 เดือนปี 2563 (ม.ค.-ส.ค.) มีจำนวน 44,542 ราย ลดลง 12% ทุนจดทะเบียนรวม 135,601 ล้านบาท ลดลง 14% และธุรกิจเลิกกิจการ มีจำนวน 8,825 ราย ลดลง 12% ทุนจดทะเบียน 39,423 ล้านบาท ลดลง 34% โดยคาดว่าปี 2563 ทั้งปี จะมีการจดตั้งธุรกิจใหม่ประมาณ 65,000-70,000 ราย
ทั้งนี้ ล่าสุดมีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ส.ค.2563) มีจำนวน 770,278 ราย มูลค่าทุน 18.57 ล้านล้านบาท แยกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 187,176 ราย คิดเป็น 24.30% บริษัทจำกัด จำนวน 581,827 ราย คิดเป็น 75.53% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,275 ราย คิดเป็น 0.17% ตามลำดับ