สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม (คค.) จัดสัมมนาและรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 โครงการศึกษาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะกลุ่มจังหวัด ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เพื่อรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยมีนายยุทธพล องอาทอิทธิชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดการสัมมนาฯ มีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการเดินรถโดยสารสาธารณะ ผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และสื่อมวลชน เข้าร่วมสัมมนา จำนวน 120 คน
การจัดสัมมนาในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอผลการศึกษาขั้นสุดท้ายในการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะกลุ่มจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เพื่อรองรับการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดย สนข. ได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ รูปแบบการลงทุน และวิธีการนำไปสู่การปฏิบัติ ประกอบด้วยภาพรวมการเชื่อมโยงพื้นที่เมืองด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 3 ระบบ ได้แก่

1) ระบบขนส่งสาธารณะหลัก เชื่อมโยงแหล่งกิจกรรมสำคัญระหว่างภูมิภาค และโครงสร้างพื้นฐาน
2) ระบบขนส่งสาธารณะรอง เชื่อมโยงระบบหลักและแหล่งกิจกรรมสำคัญระหว่างเมืองในเขตเมือง
3) ระบบขนส่งสาธารณะเสริม เชื่อมโยงแหล่งกิจกรรมย่อยในเขตเมืองหรือพื้นที่อยู่อาศัยเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะสายรอง
มีองค์ประกอบของระบบขนส่งสาธารณะ ประกอบด้วย โครงข่ายเส้นทางและตัวระบบ สาธารณูปโภคสนับสนุน ระบบตั๋วและค่าโดยสาร สิ่งแวดล้อมและการยอมรับของประชาชน การลงทุนและผลตอบแทน รวมถึงการบริหารจัดการ ซึ่งเป้าหมายของระบบขนส่งสาธารณะ ต้องมีความสะดวกเข้าถึงง่าย ปลอดภัย พัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างรูปแบบการขนส่ง ส่งเสริมเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม และมีความคุ้มค่า

ทั้งนี้ ในส่วนของรูปแบบระบบขนส่งสาธารณะแบ่งเป็น ช่องทางเฉพาะ (Exclusive Lane) และช่องทางร่วมกับรถทั่วไป (Shared Lane) โดยมีแนวเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะที่เสนอในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง
โดยในส่วนของการลงทุนนั้น รัฐบาลจะร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และบริษัทเอกชน ตามความเหมาะ โดยในเบื้องต้นรูปแบบของรถโดยสารจะเป็นรถโดยสารไฟฟ้า EV BUS รถโดยสารขนาดเล็ก EV minibus และรถไฟฟ้าล้อยาง Trambus
ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ร่วมกันเสนอข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ อย่างกว้างขวาง อาทิ อยากให้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัด เน้นการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยให้ขยายเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยวจากสนามบินอู่ตะเภาไปบ้านเพ/เกาะเสม็ดและเส้นทางสำหรับประชาชนจากเมืองระยองไปตลาดตะพง มีการเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างสถานีรถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา และท่าเรือสัตหีบ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของ EEC

รวมทั้ง ให้พิจารณาแก้กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ประกอบการ/สหกรณ์เดินรถโดยสารประจำทางเดิมเข้ามามีส่วนร่วมในกิจการเดินรถใหม่ เพิ่มเติมเส้นทางคมนาคมเพื่อขยายโครงข่าย เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาจรารจร และลดปัญหาคอขวด เช่น ก่อสร้างถนนเลี่ยงเมือง และอยากให้มีการขยายเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง 2 สถานีรถไฟความเร็วสูง เพื่อให้เดินทางเป็นวงรอบได้ตลอดจนอยากให้พัฒนาสถานีศรีราชาให้เป็น intermodal สำคัญของนักธุรกิจ และนักลงทุนในการเดินทางไปนิคมอุตสาหกรรม และท่าเรือแหลมฉบัง
ในส่วนของผู้แทนผู้ประกอบการเดินรถ ต้องการให้มีสถานีขนส่งผู้โดยสารอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับสถานีรถไฟความเร็วสูง และให้จัดเตรียมพื้นที่จอดรถและสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้ง ระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อสุขอนามัยของประชาชน ทั้งนี้ อยากให้ผลการศึกษาดังกล่าว ต้องเชื่อมโยงเส้นทางระบบขนส่งสาธารณะเพื่อสนับสนุนการเดินทาง การพัฒนาอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว และให้รัฐสนับสนุนการดำเนินการให้เกิดขึ้นได้จริง โดย สนข. จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน เพื่อจัดทำเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ และ สนข. จะนำเสนอกระทรวงคมนาคมและคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป