นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแนวคิดในการติดตั้ง เครื่องฟอกอากาศบนหลังคารถโดยสารสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหา PM 2.5 จากข้อมูลพบว่าต้นเหตุของฝุ่น PM 2.5 เกิดจากรถบนท้องถนนถึง 70 % โดยได้ประสานงานร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ (อว.) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวทช.) โดยมี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เข้ามาช่วยออกแบบ
โดยนำร่องริเริ่มใช้กับรถเมล์ของ ขสมก. ซึ่งเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่ สามารถใช้งานได้เหมือนเครื่องฟอกอากาศที่บ้าน โดยจะนำไปติดตั้งบนหลังคาของรถโดยสารสาธารณะ ขสมก.
ล่าสุด นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายกระทรวงคมนาคม ที่จะให้เริ่มติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่บนหลังคารถเมล์ เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า เบื้องต้น จะเป็นการนำร่องติดตั้งกับรถเมล์ต้นแบบ ขสมก. ก่อน 3 คันต่อเส้นทาง ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 129 เส้นทาง ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมแล้วประมาณ 387 คันก่อน โดยรถที่จะนำมาติดตั้งทาง ขสมก. จะเป็นคนคัดเลือกมา ส่วนขนส่งทางบก จะมีหน้าที่ในการตรวจมาตรฐานการติดตั้ง เนื่องจากเป็นการติดตั้งจากภายนอกรถ ซึ่งการติดตั้งจะเริ่มติดตั้งเครื่องฟอกอากาศบนหลังคารถเมล์ภายในสัปดาห์นี้
สำหรับการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเคลื่อนที่ บนหลังคารถเมล์ ขสมก. นั้น ทางฝ่ายสำนักวิศวกรรมยานยนต์ ขนส่งทางบก จะเป็นผู้ควบคุมและทดลองรวมถึงการประเมินผล มั่นใจว่าประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์ ขสมก. จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง ขสมก. จะเป็นผู้ดำเนินการ เบื้องต้นค่าใช้จ่ายต่อเครื่องราคาเฉลี่ยที่ 7,500 บาทต่อเครื่อง
อย่างไรก็ตาม หากมีการทดสอบและได้ผลก็จะขยายผลไปติดตั้งในรถเมล์ของ ขสมก. ครบทั้ง 3,000 คัน ใช้งบประมาณ 21-22 ล้านบาท และหากในอนาคตหากการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ เคลื่อนที่บนรถเมล์ ขสมก. ได้ผลดีจะขยายผลไปใช้กับรถร่วมบริการ ขสมก. ต่อไป โดยจะเป็นรูปแบบในการขอความร่วมมือในการติดตั้งมากกว่าการบังคับ