หลังจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมเรื่องความหละหลวมด้านการควบคุมโรคติดต่อร้ายแรงไวรัสโคโรน่า ล่าสุด ทอท.ประกาศถึงมาตรการและความพร้อมของเครื่องมือด้านสาธารณสุขในการป้องกัน 3 ชั้น
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ทอท.ได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณะสุข(สธ.) อย่างใกล้ชิดในการตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงและผู้โดยสารอย่างเคร่งครัดเทียบเท่ามาตรฐานสากลที่ดำเนินการในสนามบินนานาชาติอื่นทั่วโลก หรืออาจมากกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นขอให้ประชาชนทุกคนวางใจและเชื่อมั่นในกระบวนการปฏิบัติซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานกันอย่างรัดกุม
สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น ทอท.ได้ให้ความสำคัญกับการป้องกันไวรัสโคโรน่าอย่างเท่าเทียมกัน หากไม่มีการประกาศแหล่งสุ่มเสี่ยงมากอย่างเป็นทางการ ผู้ให้บริการสนามบิน จะเลือกปฏิบัติเฉพาะบางสายการบินหรือบางสะพานเทียบเครื่องบินบางจุดไม่ได้ เพราะถือว่าขัดต่อหลักการที่ต้องปฏิบัติต่อสายการบินที่เท่าเทียมกัน ดังนั้นบางครั้ง จึงต้องวิ่งย้ายอุปกรณ์ไปตามประตูเทียบเครื่องบิน ที่มีเที่ยวบินสุ่มเสี่ยงมากเข้ามา
นายนิตินัยกล่าวต่อว่าสำหรับการตรวจคัดกรองผู้โดยสารหลังจากเที่ยวบินมาถึงแล้วมีขั้นตอนดังนี้ 1.ตรวจหน้าประตูเทียบเครื่องบินเฉพาะ เที่ยวบินที่มาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงมาก
2.กำหนดตรวจสกัดที่จุดตัด concourse D E F ซึ่งเที่ยวบินที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะถูกจัดจราจรทางอากาศให้มาลงที่โซนนี้ทั้งหมด
3.ตรวจหน้า ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)สำหรับทุกเที่ยวบินทีัมีผู้โดยสารทั้งหมดในแต่ละวัน
ดังนั้นจะเห็นว่ากลุ่มผู้โดยสารที่เสี่ยงต่อการมีเชื้อไวรัสโคโรน่า ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจะถูกตรวจคัดกรองถึง 3 ชั้น ขณะที่ผู้โดยสารมาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงปกติ จะถูกตรวจ 2 ชั้น และกลุ่มผู้โดยสารทั่วไปจะถูกตรวจคัดกรอง 1 ครั้ง ทั้งนี้ ทอท.และสธ.ได้ร่วมมือทำงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศไทย
นายนิตินัยกล่าวอีกว่าสำหรับบางเที่ยวบินซึ่งผู้โดยสารพบว่าไม่มีการติดตั้งกล้องเป็นกรณีพิเศษที่หน้าประตูเทียบเครื่องบิน(Gate) อาทิ เที่ยวบินระหว่างประเทศซึ่งอยู่ที่ Concourse E ซึ่งไม่ได้มาจากแหล่งสุ่มเสี่ยงมากนัก ก็ยังจะถูกจุดตรวจสกัดคัดกรองอยู่ดี บริเวณจุดตัด Concourse D E F จากนั้นจะถูกตรวจคัดกรองอีกครั้งเมื่อผ่านจุดตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)