เรียกได้ว่าเป็นดีลช็อคโลกยานยนต์ส่งท้ายปี 62 เลยก็ว่าได้ เมื่อค่ายยักษ์ใหญ่ “อีซูซุ” รุกซื้อกิจการ “ค่ายยูดีทรัคส์” บริษัทในเครือเอบี วอลโว่ สวีเดนในประเทศญี่ปุน มูลค่า 2.50 แสนล้านเยน หรือ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นมูลเงินไทยก็ปาเข้าไปถึง 6.9 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ (18 ธ.ค.62) อีซูซุ มอเตอร์ ผู้ผลิตรถบรรทุกรายใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า วันนี้อีซูซุจะเข้าซื้อบริษัทยูดี ทรัคส์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของเอบี วอลโว่ของสวีเดนในประเทศญี่ปุน โดยการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในขอบข่ายที่กว้างขึ้นของทั้ง 2 บริษัท คิดเป็นมูลค่าราว 2.50 แสนล้านเยน หรือ 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อีซูซุ มอเตอร์ และยูดี ทรัคส์ เปิดเผยว่า ทั้ง 2 บริษัทจะร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ที่ทันสมัย เช่น รถบรรทุกแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายจะดำเนินงานร่วมกันเพื่อกระตุ้นยอดขายในตลาดเอเชียอีกด้วย
ขณะที่สำนักข่าวเกียวโตสื่อดังแดนซามูไรก็รายงานเพิ่มเติมว่า จากการจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของทั้ง 2 ค่ายครั้งสำคัญนี้ ถือเป็นครั้งแรกสำหรับค่ายยักษ์ใหญ่อย่างอีซูซุนับตั้งแต่ที่ทางบริษัทได้ระงับการร่วมทุนกับโตโยต้า มอเตอร์เมื่อปีที่แล้ว
ควบรวมทั้ง 2 ค่าย …ใครได้-เสีย?
พลันที่ข่าวการเทคโอเวอร์ถูกตีแผ่ไปทั่วโลกสร้างความตะลึงและมึนงงอย่างมากในแวดวงรถบรรทุกทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยด้วย พร้อมกับการตั้งข้อสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น?ค่ายยักษ์ใหญ่อย่างอีซูซุถึงกล้าทุ่มเงินมหาศาลซื้อกิจการค่ายยูดี ทรัคส์ ทั้งที่เป็นค่ายรถสัญชาติเดียวกัน ภายใต้ความร่วมมือทั้ง 2 ค่ายนี้ สุดท้ายแล้ว “ใครได้-เสีย”?
และที่สำคัญผลพวงจากการเทคโอเวอร์สุดช็อควงการรถใหญ่ครั้งนี้ จะส่งผลหรือไม่?อย่างไรบ้าง?ต่อแผนธุรกิจยูดี ทรัคส์ แบรนด์ในเครือวอลโว่ กรุ๊ปในทุกประเทศทั่วโลกของเอเชียรวมทั้งประเทศไทยด้วย
สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักรายงานและวิเคราะห์ตรงกันว่าวอลโว่ และ อีซูซุ เตรียมที่จะลงนามในความร่วมมือนี้กลางปี 2563 นี้ ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตรถบรรทุกหนักทั้ง 2 ค่ายร่วมกันเป็นพันธมิตรในการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ในอนาคต โดยภายใต้ความร่วมมือนี้ ค่ายวอลโว่ จะเปลี่ยนถ่ายผู้ผลิตรถบรรทุก ยูดี ทรัคส์ ให้เข้าอยู่ในกลุ่ม อีซูซุ มอเตอร์ อันจะช่วยในการเพิ่มกำลังการผลิตและร่วมมือกันในตลาดรถบรรทุกหนัก
“จากความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ แม้กระบวนผลิตรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ จะถูกเปลี่ยนถ่ายเข้าไปอยู่ในกลุ่ม อีซูซุ มอเตอร์ก็ตาม ทว่าอาศัยความแข็งแกร่งทั้ง 2 ค่ายที่มีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อผนึก 2 ยักษ์ใหญ่เข้าด้วยกัน เป้าหมายที่ทั้ง 2 ค่ายคาดหวังจะเดินหน้าสร้างความร่วมมือและความแข็งแกร่งไปด้วยกัน คือการเป็นพันธมิตรในการผลิตรถเพื่อการพาณิชย์ในอนาคต ซึ่งคาดกันทั่วโลกว่าจะสู้กันดุเดือด การร่วมกันทั้ง 2 ค่ายจึงถือวินๆกันทั้งคู่”
สอดคล้องกับแหล่งข่าวจากวอลโว่ กรุ๊ป(ประเทศไทย)รายงานว่าความร่วมมือทั้ง 2 ค่ายนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ส่วนจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและการบริหารจัดการรถบรรทุกยูดี ทรัคส์ในประเทศไทยอย่างไรนั้น หากมีความคืบหน้าและชัดเจนในเรื่องนี้ทางวอลโว่ กรุ๊ป(ประเทศไทย)จะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
หนุนรายได้วอลโว่ กรุ๊ปเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าในปี 2561 ยูดี ทรัคส์ ทำผลกำไรได้ 1.95 พันล้านยูโร หรือราว 6.4 หมื่นล้านบาท แต่จากการบริหารงานภายใต้กลุ่มวอลโว่ ทำให้มีผลกระทบต่อเงินรายได้ของกลุ่มวอลโว่ ในจำนวนที่น้อยจากช่วงปี 2561-2562
ในช่วงปี 2562 คำสั่งซื้อของ ยูดี ทรัคส์ ทั่วโลกลดลง 45%ขณะที่รายได้ของ ยูดี ทรัคส์ ก็เริ่มลดลงถึง 16% นับแต่ปี 2561 ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดรถบรรทุก วอลโว่ ก็ลดลงจาก 16.2%ในไตรมาสที่ 3 เหลือเพียง 15.2% ปลายปี 2562
“วอลโว่ ประเมินว่าหากสามารถแยก ยูดี ทรัคส์ ให้ไปอยู่กับค่ายอีซูซุได้ ภายในกลางปี 2573จะทำให้เพิ่มเงินรายได้ของกลุ่มวอลโว่ ราว 162 ล้านยูโร หรือราว 5.3พันล้านบาท รวมทั้งสามารถเพิ่มกระแสเงินสดได้ถึง 1.7 พันล้านยูโร หรือราว 5.6 พันล้านบาท”
บริบทสุดท้ายแล้วแม้ว่ารายละเอียดควบรวมทั้ง 2 ค่ายจะยังไม่เป็นสะเด็ดน้ำก็ตาม แต่คาดกันว่าการผนึกกำลัง 2 ค่ายรถใหญ่ระดับโลกนี้จะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ค่ายให้ดีมากขึ้น และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งไปด้วยกัน
อีกทั้งเพื่อหาวิธีการที่จะช่วยให้ ยูดี ทรัคส์ สามารถเจริญเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง 2 ค่ายเตรียมที่จะพัฒนารถบรรทุกขนาดเบา และขนาดกลางสำหรับอนาคตต่อไป
ส่วนในประเทศไทยนั้น “ค่ายอีซูซุ”ถือเป็นมหาอำนาจรถใหญ่ครองความเป็นเจ้าตลาดรถญี่ปุ่นบนผืนแผ่นดินไทยตลอดกาลสมฉายา “Isuzu King of Trucks”ตัวจริงเสียงจริง ขณะที่ยูดี ทรัคส์ ในประเทศไทยเองก็มีทิศทางการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรม ประจักษ์พยานจากยอดขายดีขึ้นต่อเนื่องทุกปี อย่างปี 62 ก็พุ่งแตะระดับกว่า 1 พันคันแล้ว
ทว่า เมื่อประเทศต้นทางยนตรกรรมสุดแกร่งอย่างอีซูซุ ปฏิบัติการรุกคืบเทคโอเวอร์ยูดี ทรัคส์ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโคร้างสร้างธุรกิจบนผืนแผ่นดินไทยในมิติไหนอย่างไรนั้น?
… ปูเสื่อรอ!