เรือด่วนเจ้าพระยารูปแบบใหม่ติดแอร์เลื่อนเปิดบริการจากเดิมตั้งเป้าช่วงต้นปี 63 เป็น1มี.ค.63 อ้างวัสดุประกอบตัวเรือนำเข้าล่าช้า ย้ำคิดค่าบริการคนละ 50 บาทตลอดเส้นทาง รองรับผู้โดยสารได้ 200 คนต่อลำ เบื้องต้นจอดบริการ 8 ท่าเรือเชื่อมต่อรถไฟฟ้าและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ลั่นเตรียมต่อเรือรูปแบบใหม่ทดแทนเรือเดิมได้ปีละ 4-6 ลำ คาดไม่เกิน10ปีทดแทนเรือไม้ทั้งหมดได้
นายเจริญพร เจริญธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด เปิดเผยว่าความคืบหน้าการพัฒนาเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยารูปแบบใหม่ด้วยการติดตั้งระบบปรับอากาศ(ติดแอร์) จำนวน 4 ลำ ต้นทุนเฉลี่ยลำละประมาณ 30 ล้านบาทจะเลื่อนเปิดบริการเรือโฉมใหม่ออกไปเป็นประมาณวันที่ 1 มี.ค. 63 จากเดิมตั้งเป้าจะเปิดบริการช่วงต้นปี 63 เนื่องจากวัสดุที่นำมาประกอบตัวเรือซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศยังส่งมาไม่ถึงไทย และเมื่อมาถึงแล้วต้องใช้เวลาประกอบติดตั้งน่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนก.พ.
“บริษัทฯจะคิดอัตราค่าบริการคนละ 50 บาทตลอดเส้นทาง รองรับผู้โดยสารได้ 200 คนต่อลำ ค่าบริการสูงกว่าเดิมที่เก็บตามระยะทางราคาปลายทาง20กว่าบาท เนื่องจากต้นทุนสูงและจอดไม่ครบทุกท่าเพื่อทำความเร็วเบื้องต้นจะจอดบริการในท่าเรือที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 8 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือสาทร เชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอส ท่าเรือราชินี และท่าเรือบางโพเชื่อมรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน(หัวลำโพง-บางซื่อ)ท่าเรือไอคอนสยาม ท่าเรือราชวงศ์ ท่าเรือท่าช้าง ท่าเรือท่าเตียน และท่าเรือพรานนก ส่วนท่าเรืออื่นจะพิจารณาตามปริมาณและความต้องการของผู้โดยสารในลำดับต่อไป”
นายเจริญพร ระบุต่อว่า เรือรูปแบบใหม่จะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้มาก ทำความเร็วได้ดีกว่าจากเดิมใช้เวลาเดินทางตลอดเส้นทางประมาณ 55 นาที เหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น เนื่องจากเป็นเรือแบบแค็ททะมาแรน( CATAMARAN ) หรือเรือใบแบบเรือแคนูหลายลำที่มีลำเรือคู่ขนานกัน) หรือลำตัวคู่ขนาดกว้าง 7 เมตร ยาว 24 เมตร ช่วยลดอาการโคลงเครงของเรือและด้วยระบบขับเคลื่อน 2ชุด ช่วยให้มีความคล่องตัวในการบังคับและนำเรือเข้าจอดเทียบท่าได้สะดวก
“วัสดุทำด้วยอลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา สร้างคลื่นน้อย ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน มั่นใจว่าจะเป็นทางเลือกใหม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี หลังเปิดบริการบริษัทฯจะประเมินผลการใช้งาน ความพึงพอใจและความต้องการของผู้โดยสาร ก่อนปรับปรุงและขยายผลต่อเรือเพิ่มอีก 2 ลำให้ครบตามแผนทั้งหมด 4 ลำ”
นายเจริญพร กล่าวในตอนท้ายว่าขณะเดียวกันทางบริษัทฯ เตรียมต่อเรือรูปแบบใหม่ที่มีโครงสร้างและวัสดุเดียวกับเรือติดแอร์ ซึ่งเป็นแบบแค็ททะมาแรนเพื่อนำมาทดแทนเรือไม้ที่ให้บริการอยู่ทั้งหมด 40 ลำ ทยอยเปลี่ยนปีละ 4-6 ลำ วงเงินประมาณ 100ล้าน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน10ปีสามารถต่อเรือรูปแบบใหม่มาทดแทนเรือไม้ทั้งหมดได้