นายวิฑูรย์ แนวพาณิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานครและคณะ เดินทางมากระทรวงคมนาคม เพื่อเข้ายื่นหนังสือต่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งมอบหมายให้ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ โฆษกประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 12 กันยายน 2562 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม
เครือข่ายฯ ได้เสนอมาตรการเยียวยารถแท็กซี่ที่ได้รับผลกระทบจากแนวนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการกำหนดรถส่วนบุคคลที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นให้เป็นรถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีข้อเสนอดังนี้
- รถที่จะนำมาจดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่มิเตอร์ ให้กำหนดขนาดรถไม่ต่ำกว่า 1200 CC หรือ 70 กิโลวัตน์ขึ้นไป
- กำหนดอัตราค่าโดยสารให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงในแต่ละช่วงเวลาและสภาพการจราจร
- ให้ขยายอายุรถแท็กซี่มิเตอร์ในการใช้งานจากเดิม 9 ปี เป็น 12 ปี
- สามารถโฆษณาบนรถได้ เพื่อเพิ่มช่องทางการหารายได้เสริม
- พัฒนาแอปพลิเคชั่น TAXI OK ให้มีประสิทธิภาพ สามารถแข่งขันและให้บริการเทียบเท่ากับภาคเอกชนที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้
- ขอให้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาผลดี ผลเสียในเรื่องนี้ และให้ตัวแทนจากสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ มีส่วนร่วมในการกำหนดกฎเกณฑ์ร่วมกันก่อนการประกาศใช้กฎหมาย เพื่อให้กฎหมายมีความเท่าเทียมและไม่นำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างรถแท็กซี่รูปแบบเดิมและรถแท็กซี่รูปแบบใหม่ที่ใช้แอปพลิเคชั่นในการให้บริการ ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งสอดคล้องกับนโยบายที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงฯ ยินดีรับฟังข้อคิดเห็นจากเครือข่ายฯ เพื่อจะได้ทราบปัญหาจากผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง โดยเฉพาะแนวทางที่เครือข่ายฯ เสนอมาเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับรถแท็กซี่ โดยจะนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมให้ทราบต่อไป ขณะนี้กระทรวงฯ ได้ตั้งคณะทำงานพิจารณาแนวทางการกำหนดรถส่วนบุคคลที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นให้เป็นรถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหารถส่วนบุคคลที่กระทำผิดกฎหมายวิ่งให้บริการประชาชน ส่วนการช่วยเหลือคนขับรถแท็กซี่ให้สามารถประกอบอาชีพหรือทำธุรกิจให้มีกำไร ต้องคำนึงถึงการบริการที่ดีและมีความปลอดภัยสูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ ตามจุดมุ่งหมายของกระทรวงฯ ทั้งนี้ ได้มอบให้ ขบ. ตรวจเข้มรถแท็กซี่หรือรถโดยสารที่มีอายุการใช้งานเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและยังวิ่งให้บริการอยู่ ส่วนการที่เครือข่ายฯ ประสงค์เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายและแนวทางต่าง ๆ เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนผู้ใช้บริการต่อไป