ชาวสตูลเฮ! ทางหลวงชนบทบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เชื่อมสะพานข้ามคลองดู จ.สตูล จากเกาะสู่แผ่นดินใหญ่คืบหน้าเร็วกว่าแผนคาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2565
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู อำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนบนเกาะบ้านสุไหงมูโซ๊ะ ให้สามารถเดินทางเชื่อมระหว่างเกาะกับบนฝั่งแผ่นดินใหญ่บ้านตันหยงละไน้ได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัย ประหยัดเวลาในการเดินทางไปโรงพยาบาลเมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรืออพยพประชาชนในกรณีเกิดภัยพิบัติในอนาคต ส่งเสริมการขนส่งสินค้าทางการเกษตรและประมงให้กับประชาชน
ในพื้นที่ สอดรับกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ)
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า จังหวัดสตูลขอให้ ทช.พิจารณาสนับสนุนงบประมาณก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู เนื่องจากจังหวัดสตูลได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนบ้านสุไหงมูโซ๊ะ หมู่ที่ 5 ตำบลแหลมสน อำเภอละงู จังหวัดสตูล ว่าหมู่บ้านมีสภาพพื้นที่เป็นเกาะตั้งอยู่ใกล้กับบ้านตันหยงละไน้ หมู่ที่ 1 บนฝั่งแผ่นดินใหญ่ ยังไม่มีถนน/ไฟฟ้า ทำให้การเดินทางระหว่างเกาะกับแผ่นดินใหญ่เป็นไปด้วยความยากลำบากการเดินทางด้วยเรือต้องอาศัยจังหวะการขึ้นลงของน้ำทะเลและเสี่ยงภัยคลื่นลมในช่วงมรสุม ทช.จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามคลองดู อำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
โดยได้ก่อสร้างสะพานแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ความยาว 1,320 เมตร พร้อมก่อสร้างถนนคอนกรีตต่อเชื่อม ยาว 1,742 เมตร ขนาด 2 ช่องจราจร ไป-กลับ บริเวณบ้านตันหยงละไน้ ถึง บ้านสุไหงมูโซ๊ะ ปัจจุบันมีผลงานความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 22 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งคานคอนกรีตอัดแรงรูปตัวไอ งานวางแผ่นพื้นสำเร็จรูป
และงานก่อสร้างเสาเข็มเจาะฐานรากช่วงกลางน้ำ ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2565 ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 291 ล้านบาท โดยระหว่างการก่อสร้าง ทช.จะจัดประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน จำนวน 4 ครั้ง เพื่อรับฟังความคิดเห็นและนำมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด
นอกจากนี้ ในส่วนของที่ตั้งโครงการซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี จึงจำเป็นต้องขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อขอใช้พื้นที่สำหรับดำเนินโครงการ โดย ทช.ได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีมติเห็นชอบ จากนั้นคณะรัฐมนตรี
จึงได้เห็นชอบให้โครงการใช้ประโยชน์ในเขตป่าชายเลนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่อไป