ประเด็นร้อนฉ่าเขย่าโลกในรอบสัปดาห์นี้หนีไม่พ้นสงครามการค้าของ 2 มหาอำนาจโลก “มะกัน-จีน” เมื่อ“โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศแบน Huawei ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสายเลือดมังกร และอ้างเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ ส่งแรงกระเพื่อมเขย่าขวัญสาวก Huawei ทั่วทุกมุมโลก
กระชากอารมณ์กลับมาสู่แวดวงยานยนต์เมืองไทยเมื่อปลายเดือนเม.ย. เป็นกระแสเรียกเสียงฮือฮาไม่น้อย เมื่อค่ายรถใหญ่โฟตอนจากแดนมังกรดอดเซ็นสัญญาร่วมทุนกับกลุ่มซี.พี. ของตระกูลเจียรวนนท์ กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ที่นิตยสารฟอร์บสประกาศจัดอันดับครองมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งเมืองไทยด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 9.40 แสนล้านบาท
จนถูกวิจารณ์กันหนาหูว่าเกิดอะไรขึ้นค่ายรถใหญ่จากจีนแผ่นดินใหญ่หลังยกพลขึ้นบกบุกแผ่นดินสยามแล้วทนพิษบาดแผลจากสมรภูมิรถใหญ่เมืองไทยไม่ได้ หรืออาการหนักสาหัสสากรรจ์ขนาดนั้นเลยหรอ? หรือเทพองค์ใดเข้าฝันดลใจ? ถึงต้องเซถลาพึ่งใบบุญกลุ่มทุนยักษ์ ซี.พี.!?
หลังผ่าดูไส้ในเนื้อข่าวจากการผูกการปิ่นโตร่วมทุนธุรกิจในครั้งนี้ ดูเหมือนทั้ง 2 บริษัทต่างชูเป้าหมายอย่างมีนัยยะสำคัญและถูกจับตาเป็นพิเศษยิ่งนักแล โดยบริษัทที่คลอดจากมดลูกของการร่วมทุนครั้งนี้จะถูกขับเคลื่อนด้านการผลิตและจำหน่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านยานยนต์ และการบริหารงานด้านการตลาด สู่เป้าหมายสูงสุด “โฟตอน”ต้องเติบโตในประเทศไทย โดยมีแท่นผู้นำตลาดรถใหญ่เมืองไทยอันดับ 3 เป็นเดิมพัน พร้อมสยายปีกปกคลุมทั่วอาเซียน
“การร่วมทุนในครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้บริษัทสามารถก้าวขึ้นสู่บริษัทชั้นนำในสามลำดับแรกของประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานที่มีมาตรฐานและคุณภาพระดับสูง ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมของไทยและภูมิภาคอาเซียนในระยะยาวต่อไป”นี่คือวลีเด็ดที่ผู้บริหารจากกลุ่มซี.พี.อย่างคุณนพดล เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี กรุ๊ป) ได้หล่นเอาไว้ในเนื้อข่าว
ส่องให้ลึกลงไปอีก โฟตอน มอเตอร์ จะให้การสนับสนุนทางด้านการจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ด้านผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานสำหรับยานยนต์ และเทคโนโลยีทางด้านการผลิต เทคโนโลยีด้านการเชื่อมโยงระบบการสื่อสารภายในตัวยานยนต์
ฟากกลุ่มซี.พี.ซี จะขันอาสารับผิดชอบด้านการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การจัดหาแหล่งเงินทุน และการสร้างประสบการณ์ให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเกี่ยวกับรถบรรทุกขนาดกลาง รถบรรทุกขนาดหนัก รถบรรทุกเล็ก รถบัสโดยสาร และยานยนต์สมัยใหม่ โดยเฉพาะเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง
โดยโฟตอน มอเตอร์ ใจกว้างยิ่งกว่ามหาสมุทรเปิดไฟเขียวให้ใช้แบรนด์สินค้า เครื่องหมายการค้า รวมถึงสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อเป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกันในการทำธุรกิจร่วมกัน และที่สำคัญทั้ง 2 บริษัทเดืนเครื่องยนต์เต็มสูบเพื่อผลักดันแผนการลงทุนด้วยการเปิดโรงงานการผลิตสินค้ารุ่นต่างๆ ด้วยตนเอง
หวังเจริญรอยตามเฉกเช่นการร่วมเป็นพันธมิตรกับ Shanghai Automotive Industry Corporation เพื่อร่วมกันก่อตั้งบริษัท SAIC Motor-CP พร้อมก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ MG ณ นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จังหวัดระยอง ลุยตีตลาดรถยนต์ในไทยกระจุยกระจาย พร้อมเล็งส่งออกไปยังประเทศในอาเซียนอีกด้วย
หากจะย้อนดูปูมหลังโฟตอน มอเตอร์ กรุ๊ป ไม่ธรรมดากาไก่เช่นกัน บริษัทชั้นแนวหน้าด้านอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ในจีน ครองความเป็นผู้นำด้านยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ในตลาดจีนเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกันถึง 14 ปี ปัจจุบันมีธุรกิจที่ผลิตยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ครอบคลุมอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่รถบรรทุกขนาดกลางและรถบรรทุกขนาดหนัก รถบรรทุกเล็ก รถตู้ รถปิคอัพ รถบัสโดยสาร และรถสำหรับการใช้ภายในงานก่อสร้างต่างๆ
ฟากฝั่งอาณาจักรธุรกิจและความยิ่งใหญ่ของกลุ่มซี.พี.รู้ดีกันทุกหย่อมหญ้า เป็นบริษัทชั้นนำของไทยและโลก ดำเนินธุรกิจหลากหลายครอบคลุมตั้งแต่การเกษตร ปศุสัตว์ อาหาร ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจด้านการโทรคมนาคมและการสื่อสาร อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมยานยนต์ ธุรกิจด้านการเงิน และอื่นๆ อีกมากมายในกว่า 20 ประเทศและภูมิภาคอาเซียน มีพนักงานกว่า 3 แสนคน และมีรายได้เฉลี่ยมากกว่า 3 แสนล้านหยวนต่อปี
ด้วย 2 มิติความยิ่งใหญ่ได้ถูกหลอมรวมภายใต้ปัจจัยพื้นฐานเชิงบวกแล้ว เป็นเหตุและผลที่ 2 บริษัทมุ่งหวังจะเป็นโอกาสและการเติบโตในอนาคตทั้งตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ช่วยเป็นสะพานเชื่อมทางสู่ความสำเร็จด้านยอดขายรถโฟตอน และสามารถก้าวขึ้นแท่นแบรนด์อันดับ 3 ในประเทศไทยได้ตามเป้าหมาย
ดูเหมือนไส้ในจากร่วมทุนครั้งนี้จะออกมาไฉไลไหทองคำยิ่งนัก และถือเป็นการวางกลยุทธ์การตลาดอย่างแยบยลและเป็นที่น่าจับตาอย่างมาก โดยเฉพาะการพุ่งเป้าหมายขึ้นแท่นเบอร์ 3 ตลาดรถใหญ่เมืองไทยให้ได้
หากจะว่าไปแล้วก็ใช่จะเป็นไม่ได้บนโลกธุรกิจ ด้วยสรรพาวุธและขุมกำลังความพร้อมที่กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่อย่างซี.พี.มีอยู่จนล้นหน้าตัก อาจเสกให้ค่ายโฟตอนให้กลายเป็นค่ายรถใหญ่เบอร์ 3 ของตลาดในเวลาไม่ช้าก็…อาจ…เป็น..ไป..ได้!
ทว่า สมรภูมิรถใหญ่เมืองไทยยังคงเข้มคลังเป็น “ตลาดปราบเซียน” และเป็น “ตลาดอาถรรพ์”สำหรับค่ายรถจากจีนแผ่นดินใหญ่ไปแล้ว หลายค่ายยกพลขึ้นบกบุกตลาดเมืองไทยได้ไม่นานก็มิอาจทนพิษบาดแผลไม่ไหวม้วนเสื่อกลับไปเลียแผลที่แดนมังกรก็มีให้เห็นเป็นอุทาหรณ์สยองใจกันแล้ว
ด้วยภาพลักษณ์ติดลบของค่ายรถจากจีนในสายตาผู้ประกอบการขนส่งเมืองไทยยังคงหลอกหลอนให้ขวัญผลามาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งในแง่มุมความเป็นแบรนด์จีน คุณภาพและมาตรฐาน อะไหล่ ศูนย์บริการ และการบริการหลังการขาย
สังวาสเหตุและผลให้ใครต่อใครมองต่างมุมไปว่าค่ายรถจีนดูเหมือน “แบรนด์ต้องคำสาป”ไปแล้ว!
ค่ายรถใหญ่โฟตอนกับการโม่แป้งการตลดา ณ แผ่นดินสยาม ก่อนหน้าการเซ็นสัญญาร่วมทุนครั้งนี้ ถึงขนาดที่บริษัทแม่จากจีนแผ่นดินใหญ่จะใจใหญ่ยอมทุบคลังก่อตั้งบริษัทลูกเองในไทยพร้อมพาเหรดผู้บริหาร-ทีมงานกุมทัพบริหารเองกับมือ แต่ยอดขายแต่ละปีมีเพียงแค่ “หยิบมือ” และยังไม่รับความนิยมจากผู้ประกอบการขนส่งเมืองไทยเท่าไหร่นัก
ครั้นจะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 3 ตลาดตามเป้าหมายมีไว้พุ่งชนแล้วล่ะก็ คงต้องสำแดงศักยภาพให้จงหนักและมีมากเพียงพอที่จะโค่นบัลลังก์เจ้าของตำแหน่งเบอร์ 3 ในปัจจุบันให้ได้เสียก่อน นั่นก็คือค่ายยูดี ทรัคส์ จากแดนปลาดิบ ที่ได้เปรียบในภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น และเป็นแบรนด์นิยมของผู้ประกอบการขนส่งเมืองไทยรองจากพี่ใหญ่อย่างอีซูซุและฮีโน่ อีกทั้งแต่ละปียูดี ทรัคส์ มียอดขายประมาณ 800-900 คัน และมีทิศทางการเติบโตดีขึ้นต่อเนื่องทุกปี
เชื่อเหลือเกินก่อนจะมีการลงเซ็นสัญญาร่วมทุนอย่างมีนัยยะสำคัญนี้ ทั้ง 2 บริษัทคงสว่างโล่งในข้อมูลเชิงลึกเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าหมากเกมนี้เดินอย่างไรให้กำชัยชนะ!
ถึงกระนั้น การผูกปิ่นโตธุรกิจหวังพึ่งใบบุญอาณาจักรธุรกิจกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ซี.พี.ครั้งสำคัญนี้ จะแผ่บุญญาธิการช่วยหนุนดวงให้ค่ายโฟตอนไปถึงจุดหมายปลายทางแห่งฝันได้หรือไม่?
….ปูเสื่อรอ!
:ปีศาจขนส่ง