ในแวดวงขนส่งหากเอ่ยชื่อ“นิ่มซี่เส็ง”คงต้องถึงบางอ้อกันเป็นทิวแถว บนเส้นทางการท่องยุทธภพขนส่งเมืองไทยของนิ่มซี่เส็งกว่าจะก้าวสู่เจ้ายุทธจักรในร่างสิงห์ขนส่งภาคเหนือที่องอาจในวันนี้ได้…ไม่ธรรมดา เพราะ…กี่หมื่นลี้ท่องยุทธภพรุ่นสู่รุ่นได้ฟาดฟันหลากอุปสรรคปัญหาระหว่างทางมานักต่อนัก!
จากจุดเริ่มต้น“รุ่นอากง”ผู้บุกเบิกไว้จากร้านโชห่วยห้องแถวเล็กๆในตลาดวโรรสใจกลางเมืองเชียงใหม่ รับไม้ต่อสู่รุ่นเตี่ย“เฮียใหญ่”(อุทัต สุวิทย์ศักดานนท์ 1 ใน 3 พี่น้องตระกูลสุวิทย์ศักดานนท์ผู้ร่วมก่อตั้งนิ่มซี่เส็ง)สู่ธุรกิจค้าผลใม้ขยายธุรกิจรับจ้างขนส่งผลไม้ด้วยรถปิคอัพคันแรก
ยุคที่ 2 ถือเป็นห้วงเวลาที่ยากลำบากเพราะต้องฝ่าฟันความท้าทายครั้งใหญ่กับเหตุการณ์ไฟไหม้ตลาดวโรรสปีเมื่อปี 2511 ส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างหนักเรียกได้ว่าแทบสิ้นเนื้อประดาตัว บ้านช่องรวมถึงสินค้าที่ใช้เงินซื้อหามาหมดเกลี้ยงไปกับเปลวเพลิง ทว่า“เฮียใหญ่”เสาหลักครอบครัวกลับไม่เคยคิดท้อฮึดขึ้นสู้ด้วยการ“ปั่นสามล้อ”คันเดียวที่หลงเหลืออยู่ตระเวนรับจ้างขนส่งทุกอย่างไปทั่วเมืองจนกระทั่งเริ่มพลิกฟื้นก่อร่างสร้างตัวสู่การจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน“นิ่มซี่เส็ง”
และเข้าสู่ยุคปัจจุบันซึ่งถือว่าเป็น Gen 3 ที่รับไม้ต่อโดย“เฮียตี้-ชวลิต สุวิทย์ศักดานนท์”(ลูกชายคนโตคุณอุทัต สุวิทย์ศักดานนท์)หนึ่งในเสาหลักผู้ขับเคลื่อนอาณาจักรนิ่มซี่เส็งในเวลานี้ เป็นพี่ใหญ่ดูแลธุรกิจขนส่งครบวงจรพร้อมติดปีก“สิงห์เหนือ”สู่ธุรกิจใหม่ๆของบริษัทลูกอีกกว่าสิบบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัท นิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง จำกัด ,บริษัท นิ่มซี่เส็งเอ็กซ์เพรส จำกัด ,บริษัท นิ่มซี่เส็รถยก จำกัด, บริษัท นิ่มซี่เส็งคลังสินค้า จำกัด, บริษัท นิ่มซี่เส็งพาเซล จำกัด, บริษัท นิ่มซี่เส็งห้องเย็น จำกัด และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกจำนวนมาก
จากรถปิคอัพคันแรกในวันนั้น…ถึงวันนี้“นิ่มซี่เส็ง”กลายเป็นสิงห์ขนส่งรายใหญ่ในวงการ มีฟลีทรถบรรทุกและในเครือร่วมกว่า 400 คัน มีพนักงานขับรถ พนักงานขนส่งสินค้าและส่วนอื่นๆของบริษัทลูกหลายพันชีวิต เป็นบริษัทขนส่งขวัญใจคนไทยที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็ก-ชิ้นใหญ่น้ำหนักเท่าไหร่…นิ่มซี่เส็งรับขนส่งให้หมด และถือเป็นบริษัทขนส่งของคนไทยที่แข็งแกร่งและองอาจท่ามกลางการแข่งขันสูงจากแรงกระเพื่อมยักษ์ใหญ่ขนส่งทุนหนาจากต่างชาติที่รุกคืบหวังกินรวบขนส่งไทย
ทว่า “นิ่มซี่เส็ง”ยังเป็นสิงห์ขนส่งที่ยืนตระหง่านอยู่ได้อย่างแข็งแกร่ง!
อาณาจักรนิ่มฯในยุค“เฮียตี้-ชวลิต สุวิทย์ศักดานนท์”ภายใต้แรงขับเคลื่อนสไตล์ลูกทุ่ง ทว่า โคตรเฮี๊ยบในทุกรายละเอียด เฮียตี้บอกว่าแม้ตนจะจบจากเมืองนอกมาแต่ไลฟ์สไตล์ของเขากลับเรียบง่ายลูกทุ่งๆและมีความสุขกับการทำงานทุกวันไม่มีเบื่อ ธุรกิจขนส่งอยู่ในสายเลือด ส่วนหนึ่งอาจเพราะตนได้เรียนรู้และถูกปลูกฝังจากตำราสอนของเตี่ยตั้งแต่ยังวัยเด็ก ที่สอนลูกๆไม่ให้สบายเหมือนลูกคนมีเงินทั่วไป หากแต่ต้องรู้จักการเรียนรู้ความลำบากและเห็นคุณค่าของเงิน ด้วยการสอนให้การทำงานตั้งแต่แบกขนสินค้าภายในสถานีขนส่งมาแต่เด็ก ทำให้เขารู้ดีเข้าใจดีทุกอย่างในขั้นตอนธุรกิจขนส่ง
ต้องจับตาจากนี้ไป อาณาจักร“นิ่มซี่เส็ง”กับเส้นทางขับเคลื่อนธุรกิจขนส่งในยุคเฮียตี้ โดยเฉพาะการวางแผน“บิ๊กโปรเจ็กต์”เนรมิตที่ดินกว่า 120 ไร่บนถนนลำปาง-เชียงใหม่ในปัจจุบันเป็นตลาดค้าปลีก-ส่งผักผลไม้ใหญ่สุดในเมืองเชียงใหม่ แล้วย้ายฐานบัญชาการใหญ่นิ่มฯออกไปอยู่นอกเมือง ความจริงปรากฎรูปจะออกมาไร้เทียมทานเพียงใด?
กว่า 5 ทศวรรษที่สิงห์ขนส่งภาคเหนืออย่างนิ่มฯได้โลดแล่นในยุทธภพขนส่งเมืองไทยที่กว่าจะมีวันนี้ ถือเป็นการเดินทางมาหลายหมื่นลี้ก็ก้าวข้ามมาได้ ทว่า จากวันนี้จะอีกกี่หมื่นลี้ภายใต้การนำของแม่ทัพใหญ่คนมีกึ๋นอย่าง“เฮียตี้-ชวลิต สุวิทย์ศักดานนท์”พุ่งชนความสำเร็จในวันข้างหน้าได้สมคำร่ำลือ“สิงห์เหนือ”หรือไม่?อย่างไร?
กาลเวลา…จะเป็นผู้ขีดเขียนเอง!
:หิมะเหิน