ตามที่ สื่อสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ภาพและข้อความ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 กรณีเศษวัสดุก่อสร้างทางต่างระดับ พระราม 2 ตกใส่รถบัส กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี นั้น
เมื่อวันที่ (31 สิงหาคม 2566) นายไพฑูรย์ พงษ์ชวลิต รองอธิบดีกรมทางหลวง พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ รุจิจรรยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างสะพาน นายประลองยุทธ์ กสิวงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร นายช่างโครงการ และผู้แทนบริษัทผู้รับจ้าง ร่วมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสาเหตุในกรณีดังกล่าว บนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระรามที่ 2) กม.28+800 (ขาออก) อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
รองอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 เวลา 21.00 น. ในพื้นที่ความรับผิดชอบของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายทางยกระดับบางขุนเทียน – บ้านแพ้ว (M82) ตอน 6 จากการตรวจสอบสาเหตุ พบว่า เนื่องจากช่วงสัปดาห์นี้มีฝนตกหนัก ทำให้พื้นที่ก่อสร้างมีน้ำขัง ดินอุ้มน้ำจึงเกิดการทรุดตัวในขณะที่เครื่องจักรกำลังทำงาน ทำให้ท่อนเหล็กที่กำลังยกอยู่แกว่งตัวและกระแทกโครงแผงผ้าใบจนบิดออกจากแนวแผงคอนกรีต (Barrier) เข้าไปยังผิวจราจร ส่งผลให้รถบัสโดยสารที่วิ่งมาชนกับแผงผ้าใบดังกล่าว จนได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 1 ราย เมื่อเกิดเหตุกรมทางหลวงไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้เร่งดำเนินการนำผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาและตรวจร่างกาย พบว่า มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย แพทย์ได้ทำการรักษาและอนุญาตให้กลับบ้านได้ ทั้งนี้ผู้รับจ้างได้ดำเนินการเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเรียบร้อยแล้ว สำหรับรถบัสโดยสารที่ได้รับความเสียหายนั้น ทางผู้รับจ้างได้ประสานเพื่อแสดงความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอันเนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ได้สั่งการให้โครงการฯ หยุดงานก่อสร้างบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อทบทวนมาตรการความปลอดภัย ตรวจสอบความพร้อมการทำงานของเครื่องจักร รวมทั้งเพิ่มมาตรการความปลอดภัยอื่น ๆ เช่น ดำเนินการทำความสะอาดและเสริมความแข็งแรงของแผงผ้าใบ เป็นต้น จนกว่าจะได้รับการพิจารณาให้ดำเนินการก่อสร้างได้ต่อไป
ทั้งนี้ กรมทางหลวงขออภัยในความไม่สะดวก และขอเรียนว่า ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุดมาโดยตลอด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ใช้เส้นทาง หากพบเห็นเส้นทางหรือโครงการก่อสร้างที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เส้นทางสามารถแจ้งรายละเอียดได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 โทรฟรี 24 ชม.