นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีทดลองเปิดให้บริการ รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 17 และ สาย 82 เชื่อมโยงทุกการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ พร้อมเน้นย้ำนโยบายเดินหน้าพัฒนาระบบการขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดและมลภาวะทางอากาศอย่างยั่งยืน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีทดลองเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 17 และ สาย 82 เชื่อมโยงทุกการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ พร้อมด้วย นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เข้าร่วมงาน โดยมี นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด คณะผู้บริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ณ ไทยสมายล์บัส ศูนย์พระประแดง กรุงเทพมหานคร
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพรถโดยสารสาธารณะในการให้บริการประชาชน โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ได้มีข้อสั่งการติดตามให้มีการใช้รถเมล์ไฟฟ้า EV กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการตามนโยบายสนับสนุนให้เกิดกระแสการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยได้ดำเนินการจ้างเหมาบริการรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้พลังงานสะอาด (รถไฟฟ้า) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเดินรถและลดมลภาวะเป็นพิษในเขตเมือง เพื่อให้บริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดให้บริการรถโดยสารประจำทางด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ รถ EV) สาย 8 เส้นทางแฮปปี้แลนด์ – ท่าเรือสะพานพุทธ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชน จากสถิติการเดินทางถึงปัจจุบันพบว่ามีผู้นิยมใช้บริการในแต่ละวันมีค่าเฉลี่ยมากกว่า 7,000 คน อย่างไรก็ดี กระทรวงคมนาคมไม่ได้วางเป้าหมายไว้เฉพาะโครงข่ายการขนส่งทางถนนเพียงเท่านั้น แต่มองไปถึงภาพของระบบการขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงทุกการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ ให้รถ – เรือ – ราง เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในชีวิตประชาชนที่สะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงง่ายแก่คนทุกคน สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจแก่ผู้เดินทาง สำหรับการทดลองเปิดให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า สาย 17 และ สาย 82 ในครั้งนี้ การให้บริการทั้งหมดจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ ได้แก่
“ความสะดวก” ซึ่งเส้นทางสาย 17 พระประแดง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จะเชื่อมต่อกับระบบการขนส่งทางราง รถไฟฟ้าสายสีเขียว บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอันเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมต่อของกรุงเทพมหานคร ส่วนสาย 82 ท่าน้ำพระประแดง – บางลำพู จะเชื่อมต่อการขนส่งทางน้ำ ณ ท่าเรือสะพานพุทธซึ่งเป็นท่าเรืออัจฉริยะรองรับรูปแบบการเดินทางของคนรุ่นใหม่
“ความสบาย” รถทุกคันที่ให้บริการเป็นรถปรับอากาศทำให้วิถีชีวิตของประชาชนผู้ใช้บริการได้รับความสบายเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้การเดินทางของพี่น้องประชาชนไม่น่าเบื่ออีกต่อไป รวมถึงได้ขอให้บริษัทฯ ติดตั้งโทรทัศน์ภายในรถโดยสาร เพื่อผู้ใช้บริการได้ติดตามข้อมูลข่าวสารและตรวจสอบเส้นทางในการเดินทาง
“ความสะอาด” โดยรถทุกคันใช้พลังงานไฟฟ้าอันเป็นพลังงานสะอาด อันเป็นการดำเนินการ ที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งมุ่งเน้นการส่งเสริมการใช้รถพลังงานไฟฟ้า รวมถึงจะมีการพัฒนาให้เป็นรถพลังงานไฮโดรเจนต่อไปในอนาคต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อนและมลภาวะทางอากาศที่มีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น
“ความประหยัด” แม้จะมีการกำหนดราคาค่าโดยสารตามระยะทางไว้ที่ 15 – 20 – 25 บาท แต่ในเบื้องต้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย จึงได้ขอความร่วมมือให้บริษัทฯ พิจารณาจัดเก็บค่าโดยสาร ที่ราคา 10 บาท ตลอดสายจนถึงสิ้นปี 2565 สำหรับประชาชนผู้เดินทางซึ่งเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยในระยะต่อไปได้มอบหมายให้มีการจัดทำตั๋วประเภทพิเศษ ที่หากประชาชนเดินทางครบ 40 บาท ในหนึ่งวันแล้ว



