เวียดนามมีปริมาณการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ข้ามพรมแดนเฉลี่ยสูงสุด โดยมีการสั่งซื้อจากเว็ป 104 ครั้งต่อปีในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 66 ครั้งต่อปี โดยประเทศไทยมาเป็นอันดับ 2 ด้วยยอดซื้อเฉลี่ย 75 ครั้งต่อปีตามมาด้วยสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ 58 ครั้งต่อปี โดยส่วนใหญ่คำสั่งซื้อจากเวียดนามจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีการหมุนเวียนเร็ว (Fast-Moving Consumer Goods: FMCG) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าและรองเท้า จากข้อมูลระบุอีกว่าชาวเวียดนามร้อยละ 59 ซื้อของและสั่งซื้อบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซต่างประเทศหลายครั้ง ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเป็นอันดับ 2 ใน ภูมิภาค รองจากสิงคโปร์ที่ร้อยละ 60
นาย ฟาน ซวน ญู๊ง (Phan Xuan Dung) ผู้อำนวยการฝ่ายขายของ Ninja Van Vietnam กล่าวว่า เวียดนามเป็นหนึ่งใน ประเทศที่มีศักยภาพอีคอมเมิร์ซสูง เนื่องจากการเติบโตที่ยั่งยืนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คาดว่า ภายใน 2568 เวียดนามจะกลายเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจาก อินโดนีเซีย ปัจจุบันเวียดนามมีระดับการซื้อเฉลี่ย (ABS) อยู่ที่ 26 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าไทย (25 เหรียญสหรัฐฯ) และอินโดนีเซีย (18 เหรียญสหรัฐฯ)
จากแหล่งข้อมูลของ We Are Social ระบุว่า ในปี2565 คนเวียดนามที่ซื้อสินค้าออนไลน์จะ เพิ่มขึ้น 51 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดการณ์ว่า ในปี2565 การใช้จ่ายทั้งหมดในการซื้อสินค้าออนไลน์มีมูลค่า 12,420 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายงาน e-Conomy Southeast Asia 2021 ของ Google, Temasek และ Bain & Co. คาดการณ์ว่า เวียดนามจะแซงหน้าประเทศไทยภายในปี 2568 และกลายเป็นเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมูลค่า 57 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รองจากอินโดนีเซียที่ 146,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ การพัฒนาตลาดอีคอมเมิร์ซได้กลายเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ในการขยายการดำเนินงาน
และจากการประเมินโดยผู้ให้บริการจัดส่ง บริษัท J&T Express พฤติกรรมการซื้อของออนไลน์ของชาวเวียดนามมีการพัฒนาอย่างมากในช่วง ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และพฤติกรรมเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ความต้องการสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสูงไม่เพียงแค่ในเมืองใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงในพื้นที่ชนบทด้วย
ที่มา e.vnexpress.net
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงฮานอย