นาย S.Iswaran รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ ได้กล่าวในการประชุมสุดยอดด้านการบินชางงี ( The InauguralChangi Aviation Summit) ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการหยุดชะงักของการก่อสร้างในสิงคโปร์และการเดินทางระหว่างประเทศเป็นเวลานาน รัฐบาลสิงคโปร์จึงได้ชะลอการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งที่ห้า (Terminal 5 :T5) ทั้งในช่วงสองปีที่ผ่านมาการออกแบบอาคารผู้โดยสารที่ห้าได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ใช้งานแบบแยกส่วนได้และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และในขณะนี้รัฐบาลสิงคโปร์มีความพร้อมที่จะผลักดันแผนการสร้างอาคารโดยสารขนาดใหญ่เพื่อรองรับตัวเลขทั้งในปัจจุบันและตัวเลขคาดการณ์ในอนาคต และคาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2573
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลสิงคโปร์มีแผนที่จะทำให้สนามบินชางงีเป็นศูนย์กลางการบินที่มีความยั่งยืนควบคู่ไปกับความสามารถในการแข่งขันและมีประสิทธิภาพ โดยได้ดำเนินการในหลายด้านเพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในธุรกิจการบิน ซึ่งรวมไปถึงส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการการจราจรทางอากาศ เพราะหากสายการบินสามารถลดเวลาที่ใช้ในการรอขึ้นหรือลงจอดได้ จะเป็นการช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกทาง การใช้พลังงานหมุนเวียน โดยมุ่งเน้นที่พลังงานเชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน เช่น การนำส่วนหนึ่งของน้ำมันต่างๆ เช่น น้ำมันปรุงอาหาร หรือน้ำมันไขมันสัตว์ที่ใช้แล้วในอุตสาหกรรมอาหารมาหมุนเวียน โดยนำส่วนหนึ่งของน้ำมันดังกล่าวมาผสมในเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืนในธุรกิจการบินนั้นสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลสิงคโปร์ที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในหรือประมาณปี 2593
รมว.คมนาคมของสิงคโปร์ประเมินว่า การเดินทางระหว่างประเทศโดยเครื่องบินเริ่มอีกครั้งในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ถึงแม้ว่าความต้องการเดินทางระหว่างประเทศทางอากาศของภูมิภาคในเดือนมีนาคม 2565 จะอยู่ที่ 17% ของระดับตัวเลขก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ โดย จีน ญี่ปุ่นและฮ่องกง เป็นตลาดหลักที่ยังมีข้อจำกัดการเดินทางในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ขณะที่เดือนเมษายน 2565 จำนวนผู้โดยสารที่สนามบินชางงีเพิ่มขึ้น 40% ของระดับตัวเลขก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ
อย่างไรก็ดี การเดินทางโดยเครื่องบินมีแนวโน้มฟื้นตัวสู่ระดับก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ภายในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้หนึ่งปี