ในช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าเส้นทางจีน-ลาวได้เริ่มวิ่งออกจากท่าทางบกนานาชาติ เมืองก้านโจว มณฑลเจียงซี ซึ่งถือเป็นขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าจากจีนไปยัง ลาวสายแรกของมณฑลเจียงซีโดยขบวนรถไฟดังกล่าวบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 50 ตู้ครอบคลุมสินค้า หลากหลายประเภท อาทิ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ของใช้ในชีวิตประจำวัน เสื้อผ้า และรองเท้า เป็นต้น ซึ่งจะออกจากเขตพรมแดนประเทศจีน ณ ด่านโมฮ่าน มณฑลยูนนาน
โดยคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาเดินทางถึงนครหลวงเวียงจันทน์ประเทศลาว ประมาณ 5 วัน ซึ่งจะเป็นเส้นทางลัดสายใหม่สำหรับการค้าระหว่างประเทศที่จะ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการค้าของมณฑลเจียงซีกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบกับการขนส่งสินค้าทางทะเลแบบเดิม การขนส่งสินค้าโดยขบวนรถไฟดังกล่าวจะช่วย ประหยัดเวลาการขนส่งได้มากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว และลดต้นทุนการขนส่งลงอีกด้วย โดยจะดำเนินพิธีการศุลกากร ขาออก ณ ศุลกากรเมืองก้านโจว อาทิ การรายงานรายการสินค้าต่อศุลกากร การตรวจสอบเอกสาร การตรวจสอบ และตรวจปล่อยสินค้า เป็นต้น และเมื่อสินค้ามาถึง ณ ด่านรถไฟโมฮ่านแล้ว ก็จะสามารถตรวจปล่อยสินค้าออก จากด่านได้ทันทีหลังจากที่ทำการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
การเริ่มต้นของขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าสายดังกล่าวในมณฑลเจียงซี ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับท่าทางบกนานาชาติเมืองก้านโจวของมณฑลเจียงซี และช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปิดตลาดในอาเซียนและเขตการค้าเสรี (RCEP) ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
รถไฟลาวจีนที่อาจเป็นผลดีต่อการค้าไทย
อย่างไรก็ตาม จากความเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ระบุว่า ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าเส้นทาง จีน-ลาวสายแรกของมณฑลเจียงซีถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยปลายทางของขบวนรถไฟบรรทุก สินค้าสายนี้คือนครหลวงเวียงจันทน์ ที่อยู่ห่างจากจังหวัดหนองคายเพียง 24 กิโลเมตร จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ ผู้ประกอบการจะสามารถใช้ประโยชน์เพื่อทำให้การส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดเวลา และลดต้นทุนได้มากขึ้นกว่าเดิม
ขณะที่ท่าทางบกนานาชาติเมืองก้านโจวในมณฑลเจียงซีก็เป็นอีกหนึ่งจุดยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ของจีนที่น่าจับตามอง และจะสามารถอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่าง ไทยและมณฑลเจียงซีได้มาก โดยท่าทางบกนานาชาติเมืองก้านโจวเป็นโลจิสติกส์ทางรถไฟที่สำคัญของจีน และเป็นด่านรถไฟเขตทดลองศุลกากรแห่งแรกของจีน ที่สำคัญยังเป็นด่านนำเข้าผลไม้โดยไม่ต้องดำเนินพิธีการทาง ศุลกากรแห่งแรกและแห่งเดียวในจีนอีกด้วย
สำหรับมณฑลเจียงซี เป็นคู่ค้าที่สำคัญของไทยและอาเซียน ตลอดจนเขตการค้าเสรีRCEP จากสถิติ ศุลกากรจีน ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา มณฑลเจียงซีมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศประมาณ 2.24 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.1 (YoY)
แบ่งเป็นการนำเข้าคิดเป็น มูลค่าประมาณ 587,650 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 (YoY) และการส่งออกคิดเป็น มูลค่าประมาณ 1.65 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.8 (YoY) โดยไทยเป็นประเทศ คู่ค้าลำดับที่ 9 ของมณฑลเจียงซี มีมูลค่าการค้ากับมณฑลฯ ประมาณ 47,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.1 (YoY) ขณะที่มณฑลเจียงซีนำเข้าจากไทยประมาณ 6,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.9 (YoY) และส่งออกไปไทยคิดเป็นมูลค่า ประมาณ 41,085 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.8 (YoY)
สำหรับสินค้าที่มณฑลเจียงซีนำเข้าจากไทยสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ผลไม้ในเขตเมืองร้อน แผง IC และเศษและชิ้นส่วนทองแดง ขณะที่สถานการณ์การค้าระหว่าง ประเทศในสมาชิก RCEP กับมณฑลเจียงซีนั้น ในช่วงเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา มณฑลเจียงซีมี มูลค่าการค้ากับสมาชิก RCEP ประมาณ 674,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 (YoY) โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 30 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของมณฑลเจียงซีในช่วงเวลา เดียวกัน
ที่มา: https://baijiahao.baidu.com http://43.248.49.97 http://nanchang.customs.gov.cn/nanchang_customs/496856/fdzdgknr99/hgtj16/496844/40506 23/index.html https://baike.baidu.com/item/赣州国际港 https://jiangxi.jxnews.com.cn https://baijiahao.baidu.com
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองเซี่ยเหมิน