ยังเป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้างในโลกข่าวสารในเวลานี้สำหรับ“น้องธนากร ทองหนูนุ้ย” นักเรียนชั้นม.4 อายุ 17ปีจากร.ร.เบ็ญจะมะมหาราชเมืองอุบลฯที่แม้จะมาจากครอบครัวยากจน แต่มุ่งมั่นในการเรียนจนสามารถสอบคัดเลือกเข้าเตรียมทหารพิชิตอันดับ1ทั้ง 3 เหล่าทัพ และตัดสินใจเลือกเป็นนักเรียนเตรียมทหารเหล่าทหารบก ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีเงินแม้กระทั่งไปมอบตัว แต่โชคดีที่แม่ทัพภาคที่2ได้ทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในวันมอบตัว
ทั้งนี้ จากนโยบายกองทัพบกที่เล็งเห็นความตั้งใจจริงของน้องธนากรมีใจรักในอาชีพทหาร มีคุณสมบัติและอุดมการณ์เพื่อประเทศชาติเข้ามารับราชการในกองทัพบก โดยจะมอบทุนการศึกษาเป็นรายเดือนให้ตลอดการศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร อีกทั้งเตรียมเข้าช่วยปรับปรุงบ้านพักของบิดามารดา ที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ อีกด้วย
เบื้องลึกกว่าจะมีวันนี้นั้นน้องธนากร ทองหนูนุ้ย มีภูมิลำเนาเกิดที่อ.ภูสิงห์จ.ศรีสะเกษ แต่มาเรียนที่ร.ร.เบ็ญจะมะมหาราช จ.อุบลฯพื้นฐานครอบครัวมีฐานะยากจนโดยคุณพ่อมีอาชีพรับจ้างขับรถพ่วง 18 ล้อ ส่วนคุณแม่รับจ้างทั่วไป ทว่า ด้วยจิตใจที่รักการในเรียนเป็นทุนเดิมบวกกับการเลี้ยงดูจากครอบครัวที่ปลูกฝังค่านิยมให้เป็นคนดีและรู้จักคุณค่าการศึกษาที่จะเป็นบันไดขั้นสำคัญก้าวไปสู่อาชีพการงานที่มั่นคงในอนาคต
ส่วนเบื้องลึกที่เจ้าตัวเลือกเส้นทางอยากเป็นทหารนั้น ตามรายงานข่าวเจ้าตัวเกิดจากแรงบันดาลใจผ่านประสบการณ์เมื่อปี 2553 ที่เกิดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาบริเวณเขาพระวิหาร ที่น้องและครอบครัวจำเป็นต้องอพยพออกนอกพื้นที่ชายแดน จ.ศรีสะเกษชั่วคราว ระหว่างนั้นได้เห็นการนํากําลังทหารเข้าดูแลพื้นที่ชายแดนเพื่อปกป้องประเทศดูแลประชาชน จึงเกิดความประทับใจ และตั้งใจว่าวันหนึ่งข้างหน้าอยากทำหน้าที่ดูแลชาติบ้านเมืองด้วยการเป็นทหาร
ถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบของเยาวชนที่แม้จะมีฐานะยากจนแต่ไม่จนในความเพียรพยายาม มุ่งมั่น อดทน และใฝ่ในการเรียนจนประสบความสำเร็จเป็นบันไดขั้นสำคัญต่อการเดินตามฝันสู่ความมั่นคงด้านหน้าที่การงานในอนาคตกับอาชีพที่เขาชอบและเลือกแล้ว
ส่วนหนึ่งต้องชื่นชมในตัวน้องเองที่มุ่งมั่นและตั้งใจใฝ่เรียน แต่ผู้มีส่วนสำคัญอย่างมากคือสถาบันครอบครัวที่คุณพ่อ-คุณแม่แม้จะมีอุปสรรคด้านการเงิน แต่ก็ยังทำงานหนักเพื่อเก็บออมเป็นทุนรอนส่งเสียด้านการศึกษาให้กับลูกชายอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมกับเป็นเบ้าหลอมสำคัญต่อการเลี้ยงดูให้เป็นคนดีและมุ่งมั่นตั้งใจเรียนเพียรศึกษาจนประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรมในวันนี้
บนเส้นทางชีวิตของน้องจากนี้ไปจนถึงอนาคตไม่มีใครทราบว่าจะเป็นอย่างไร? เป็นธรรมดาของสังคมไม่ว่าจะอยู่ในสาขาอาชีพไหนก็มีทั้งคนดี-ไม่ดีปะปนกันไปเรื่องธรรมดา!
ทว่า วันนี้เรายกเคสของน้องมาเป็นกระจกเงาสะท้อนให้สังคมได้เห็นในแง่มุมการไม่ท้อในโชคชะตาในต้นทุนชีวิตที่มีครอบครัวยากจน แต่กลับยึดความยากจนเป็นแรงผลักดันให้ตัวเองมีแรงฮึดสู้และเพียรพยายามเพื่อผลักดันตัวเองให้ก้าวข้ามอุปสรรคสู่เป้าหมายที่ตัวเองได้เลือกเดินตามฝันอย่างถึงที่สุด
แม้วันนี้หัวอกพ่อ-แม่จะอดปลื้มและภาคภูมิใจไม่ได้ในความสำเร็จของลูกชาย แต่สุดท้ายแล้วพ่อที่รับจ้างขับรถพ่วง18ล้อก็ยังตะบันหน้าที่ชีวิตหลังมาลัยต่อไป ส่วนแม่ก็ยังยึดอาชีพรับจ้างต่อไปเช่นกัน เพื่อเป็นแนวหนุนหลังให้กับลูกชายได้เดินฝันสู่เป้าหมายรับราชการทหารที่ดี เป็นรั้วของชาติ-ที่พึ่งของประชาชนในวันข้างหน้า
และที่สำคัญได้หวนกลับมาเลี้ยงดู-ยกระดับคุณภาพชีวิต-เป็นที่พึ่งของพ่อ-แม่ในยามแก่เฒ่า!
:กระบี่ไร้นาม