หากเอ่ยถึง“คนขับสิบล้อ”อาชีพหลังพวงมาลัยที่แม้แต่จำเนียรกาลนานยุคเก่าสมัยพระเจ้าเหายังทรงพระเยาว์มาจนถึงยุคสื่อโซเชียลยึดครองเมืองมนุษย์แบบเบ็ดเสร็จ ข้อครหา คำสบประมาท-ดูหมิ่นดูแคลน หรือแม้แต่สมญานามเชิงลบบ้างก็ว่าเป็น“จ้าวถนน”บ้างก็ว่าเป็นอาชีพไร้เกียรติ“ต้อยต่ำ-ไร้การศึกษา”ยุ่งเกี่ยวโรมรันพันตูกับ “สิ่งผิดกฎหมาย-มั่วยาเสพติด”
สารพันคำปรามาสที่ถาโถมใส่ในรอยอดีตถึงกาลบัดนาวที่พราวแสงด้วยเทคโนโลยีสูงลิ่ว ยุคสมัยที่ใครใคร่จิ้มหาองค์ความรู้และสรรพสิ่งบนโลกกลมๆและเน่าๆใบนี้ก็สนุกสนานบานตะไท-ง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว ทว่า ภาพลักษณ์ติดลบเหล่านี้ก็ยังมิวายจางหายไปจากสายตาของสังคมไทย
ทั้งที่อาชีพนี้ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในมุมมืดสังคมคือผู้ปิดทองหลังพระในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาทุกยุคสมัย อีกทั้งยังเป็น“อาชีพสุจริต”ที่พวกเขาตั้งใจอันบริสุทธิ์เพียงเพื่อทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยมุ่งหวังให้ได้ “ค่าแรง-เงินเดือน”ส่งเสียเลี้ยงลูก-เมียได้มีอยู่มีกินพอมีหน้ามีหน้าในสังคมบ้างไรบ้าง
หากแต่สายตาและสาระพันแห่งความคิดของใครบางคนยังมองต่ำว่ามีพวกเขาคือ“อันธพาลชน”เข้ามาผสมโรงทั้งที่ในความเป็นจริงไม่ว่าจะอยู่ในวงล้ออาชีพไหนมันก็มีครรลองไม่แปลกแหกไปต่างอะไรจากวงล้ออาชีพดาดดื่นอื่นๆของสังคมที่อาจมีคนดี-ชั่วเข้ามาปะปนบ้างไรบ้างเป็นเรื่องธรรมดาสากลโลก…ใช่มั้ยคะคุณเพ่ขา!?
แต่เพราะบริบทที่ว่า“รถใหญ่”คับเลนคับถนนที่อาจมีต้นทุนต่ำบ้างในสายตาสังคม หรือจากพฤติกรรมสิบล้อบางคนที่อาจนอกคอก-นอกลู่-นอกทางนำความเสื่อมเสียและภาพลักษณ์ติดลบกระทบวงการสิบล้อ แต่…นั่นก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่สังคมจะทิ้งบอมบ์อคติหรือเหมาเข่งกระทืบซ้ำทั้งป่าดงดิบอาชีพคนขับล้อซะเมื่อไหร่ล่ะ…ชิมิ ชิมิคุณน้องขา?
หรือแม้แต่กรณีเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนก็มักจะพ่วงมาด้วยความสูญเสียที่“ใหญ่ๆ”ตามมาเป็นพรวนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน กลายเป็นเป็นว่าพวกเขาคือ“แพะรับบาป”และเป็นแพะรับบาปทุกครั้งไปทั้งที่มูลเหตุบางครั้งไม่ได้มาจากพวกเขาเลยก็ตาม หรือแม้แต่ปมฝุ่นพิษPM2.5 พวกเขายังถูกตราหน้าว่า“ต้นตอ”ปัญหาสุดคลาสสิคนี้จริงๆนะทุกคน
ทั้งหมดมันขมวดเพียงแค่บริบทความเป็น“พี่ใหญ่”บนท้องถนนเพียวๆไม่ต้องพึ่งโซดา-น้ำผสม!
ด้วยอาชีพขับรถบรรทุกเป็นวงล้อการดำรงชีพหลังพวงมาลัยที่ยากลำบากต้องอดหลับอดนอน จำใจจรห่างไกลจากลูกเมียและครอบครัวอันเป็นที่รัก ขับรถส่งสินค้าขึ้นของลงของตะลอนรอนแรมไปทั่วทิศทั่วไทยใกล้-ไกล“ชีวิตที่สุขสบาย”ไม่เคยมีในพจนานุกรมคนขับสิบล้อหรอกจ้า…พี่น้อง!
ยิ่งในภาวะเศราฐกิจตกต่ำสาละวันเตี้ยลงๆงานขนส่งก็น้อยนิดการแข่งขันก็สูง ซ้ำยังถูกบักโควิดพ่นพิษเข้าใส่ทุกซอกหลืบสังคม ผู้คนลำบากกันทุกหย่อมหญ้า “อาชีพหลังพวงมาลัย”เจ้ายักษ์ยังไม่ละทิ้งหน้าที่ และยังต้องทำงานหนัก ขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วทิศทั่วไทยให้พี่น้องคนไทยจับจ่ายใช้สอยไม่ขาดมือในภาวะยากลำบากเช่นนี้
ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวสิงห์รถบรรทุกทุกหมู่เหล่าต่อสู้กับทุกปัญหาอุปสรรค พุ่งชนเป้าหมายตามวิถีงาน-ความรับผิดชอบในภาระหน้าที่-อาชีพสุจริตนี้อย่างถึงที่สุด พร้อมส่งต่อความสุขเล็กๆถึงลูกเมียและครอบครัวแนวหลังยังคอย
ใครมันจะปรามาสเราอย่างไรก็ช่างหัวมัน ที่สำคัญเราอย่าปรามาสอาชีพสุจริตงานที่เรารัก “ใครไม่เข้าใจก็ช่าง”แม่มมันประไรล่ะ แต่เรายังมีแนวหลังอย่างลูกเมียและครอบครัวอันเป็นที่รัก…ที่ยังรัก เข้าใจ และคอยให้กำลังใจหนุนหลังเราอยู่เสมอมิเสื่อมคลาย
ที่ร่ายมาไอ้กระผมไม่ได้มุ่งหวังจะเรียกร้องประชาธิปไตย…เย้ย!ความเห็นใจ-ความเป็นธรรมจากสังคมแต่อย่างใด เพียงแค่อยากเป็นกระบอกเสียงสะท้อนในอีกมุมมองหนึ่งที่ใครต่อใครอาจมี“เงาอคติ”เป็นราหูปิดตาเอาไว้จนอาจลืมมองด้านบวกของพี่น้องสิบล้อบ้างไรบ้าง
เพียงแค่…อยากสะกิดต่อมแยกแยะ“ขาว-ดำ”ให้พรูพรั่งบังเกิดบ้าง ไม่ควรบ้วนอะไรบางอย่างออกจากรูปากกะซวกลากไส้แตกใส่“สิบล้อ”ในมุมมองเดียวอย่างเมามันส์โดยปราศจากสติปัญญาและหลักเหตุผลรองรับ ขอบิณฑบาตไว้เถอะโยม “สติมาปัญญาเกิด สติเตลิดปัญญาบอดบิดเบี้ยว”
…อย่าเด้อ กรุณาอย่าเด้อ… “สิบล้อ”ก็มีหัวใจคือกัน!
:ลมใต้ปีก