“บีเอส เอ็กซ์เพรส”ปลื้ม!คว้ารางวัลสถานประกอบการที่มีพัฒนาการด้านโลจิสติกส์ยอดเยี่ยมประจำปี 2566 ของกระทรวงอุตสาหกรรม ตอกย้ำมาตรฐานการบริหารจัดการฟลีทรถให้มีประสิทธิภาพสามารถลดต้นทุนลูกค้าประหยัดค่าขนส่งกว่า 6 ล้านบาท
อีคอมเมิร์ซ
ธุรกิจขนส่งพัสดุยังคงร้อนแรง ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics ประเมินธุรกิจขนส่งพัสดุในปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องที่ 18% ด้วยมูลค่า 1.15 แสนล้านบาท ตามการเติบโตตลาด E-Commerce ที่เติบโตราว 11% โดยกลุ่มธุรกิจขนส่งพัสดุที่ต่อยอดมาจากธุรกิจ
ไปรษณีย์ไทย เดินหน้าเพิ่มคุณภาพการบริการรองรับการขนส่งยังเติบโตต่อเนื่อง เน้นส่งมอบคุณภาพให้ทุกภาคส่วนแบบ 100% ได้แก่ คุณภาพด้านความแม่นยำ อาทิ การตรวจสอบสถานะสิ่งของ คุณภาพด้านความรวดเร็ว โดยเฉพาะบริการส่งด่วน EMS
สถานการณ์ธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในปัจจุบัน อ้างอิงจากรายงานของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (TPSO) ระบุว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ธุรกิจโลจิสติกส์มีจำนวนนิติบุคคลรวม 40,101 ราย โดยมีการเปิดกิจการใหม่ 367 ราย
นับตั้งแต่ เบสท์ (BEST Inc.) บริษัทแม่ของ BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ประเทศไทย ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในตลาดธุรกิจโลจิสติกส์ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความต้องการในการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
BEST ชูศักยภาพศูนย์กระจายพัสดุ (HUB) กรุงเทพฯที่มีการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีทั้งซอฟต์แวร์และเครื่องจักรต่าง ๆ ที่ทันสมัยและมีการพัฒนาโดยตรงจาก เบสท์ (BEST Inc.)ในจีน บริษัทแม่เบสท์ ประเทศไทย ที่มาพร้อมทั้งประสิทธิภาพ
ลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วน ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด มาพร้อมการสร้างโอกาสทำกำไรและค้นหาความท้าทายด้วยธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุด่วน BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) แบรนด์ขนส่งพัสดุเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย
เบสท์ ประเทศไทย หรือ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้การดูแลของ เบสท์ (BEST Inc.) บริษัทแม่ เผยแผนธุรกิจปี 2023 บูรณาการเชื่อมโยง 4 ธุรกิจหลัก หนุนส่งออกสินค้าไทยผ่านบริการส่งพัสดุระหว่างประเทศ
เจแอนด์ที เอ็กซ์เพรส (J&T Express) บริษัทขนส่งระดับโลกผู้มอบบริการหลักด้านการขนส่งพัสดุด่วนและการขนส่งข้ามพรมแดน ร่วมส่งความสุขพร้อมมอบของขวัญต้อนรับปีใหม่ด้วยการปรับราคาค่าส่ง ลดเหลือเพียง 15 บาท
รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติในการส่งเสริมผู้ประกอบการเวียดนามให้เข้าร่วมในเครือข่ายการจัดจำหน่ายในต่างประเทศภายในปี 2573 โดยระบุว่า นอกจากช่องทางดั้งเดิมแล้ว ช่องทางอีคอมเมิร์ซจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ประกอบการของเวียดนาม พัฒนาความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับเครือข่ายการจัดจำหน่ายต่างประเทศ เพื่อสร้าง รูปแบบในการผลิต ส่งออก และจำหน่ายที่มั่นคง