กรมทางหลวงชนบท จับมือกรมการขนส่งทางบก ตรวจควันไอเสีย (ควันดำ) เครื่องจักรกลและยานพาหนะ ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ลดปัญหามลภาวะทางอากาศและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ตรวจควันดำ
กรมทางหลวงชนบท ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ตรวจวัดค่าควันดำยานพาหนะและเครื่องจักรกล ร่วมบรรเทาปัญหามลภาวะทางอากาศ PM 2.5
กรมทางหลวงชนบท ร่วมกับกรมการขนส่งทางบก ตรวจวัดค่าควันดำยานพาหนะและเครื่องจักรกล พร้อมเข้มงวดมาตรการลดฝุ่น PM2.5 ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
กรมการขนส่งทางบก ตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารต่อเนื่องทั่วประเทศ เผย 3 เดือน ตรวจแล้ว 6.3 หมื่นคัน พ่นห้ามใช้แล้ว 324 คัน มุ่งป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5
ในช่วงที่เกิดวิกฤตค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน (PM 2.5) ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หลายๆ หน่วยงานของภาครัฐ ได้โยน “ตราบาป” ให้กลุ่มขนส่งมาแล้ว ด้วยการตั้งด่านสกัดตรวจวัดควันดำรถใหญ่ ส่งผลให้รถใหญ่หลายๆ คันถูกฉีกพ่น "ห้ามใช้" และปรับคันละ 5,000 บาทถ้วน
- วันที่(17 ม.ค.62) ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต 2
คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจควันดำรถเมล์ ยืนยันไม่พบค่าควันดำสูงเกินมาตรฐาน ซึ่งการตรวจสอบค่าควันดำของรถ ขสมก. มีค่าเฉลี่ยควันดำอยู่ที่ 15 -20 % ยังไม่เกิน 45% ของมาตรฐานกรมควบคุมมลพิษกำหนด โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งตรวจเข้ม หากพบรถคันใดมีค่าควันดำเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด ให้งดวิ่งให้บริการทันที โดยคุณยงยุทธ นาคแดง ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ นำผู้ตรวจการขนส่งทางบก ร่วมลงพื้นที่ตรวจวัดควันดำในครั้งนี้
ทั้งนี้กรมการขนส่งทางบก จัดเจ้าหน้าที่กองตรวจการขนส่งทางบกลงพื้นที่ตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสารประจำทาง และรถอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดมลพิษ ตรวจสอบ ณ บริเวณอู่จอดรถ ขสมก. จำนวน 9 อู่ ประกอบด้วย เขตการเดินรถที่ 1 อู่บางเขน, อู่รังสิต เขตการเดินรถที่ 6 อู่พุทธมณฑลสาย 2, อู่ไร่ขิง เขตการเดินรถที่ 7 อู่นครอินทร์, เทศบาลบางบัวทอง, อู่บางบัวทอง, อู่ท่าอิฐ – เขตการเดินรถที่ 8 อู่หมอชิต 2 และตั้งจุดตรวจ 4 จุด ดังนี้ บริเวณถนนกำแพงเพชร เขตจตุจักร, บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ทั้งขาเข้าขาออก และบริเวณท่ารถรังสิตรวมตรวจสอบรถทั้งสิ้น 793 คัน พบค่าควันดำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด “พ่นห้ามใช้” จำนวน 4 คัน