ดีเอชแอล ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับเครือสหพัฒน์ กลุ่มบริษัทในเครือสหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เพื่อยกระดับขีดความสามารถตลาดอีคอมเมิร์ซของเครือสหพัฒน์ทั้งในประเทศและระดับโลก สอดคล้องกลยุทธ์ ‘Strategy 2030 – Accelerate Sustainable Growth’ ของดีเอชแอล กรุ๊ป เพื่อสนับสนุนหนึ่งโอกาสเติบโตธุรกิจจากปัจจัยเกื้อหนุนจากการกระจายฐานการผลิต มุ่งเน้นการช่วยบริษัทไทยขยายเข้าถึงตลาดและเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ที่ให้บริการในประเทศและเครือข่ายระดับโลกของดีเอชแอล
ภายใต้ความร่วมมือนี้ ดีเอชแอลในประเทศไทย จะให้การสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซภายในประเทศและระหว่างประเทศของกลุ่มธุรกิจเครือสหพัฒน์ด้วยโซลูชันโลจิสติกส์และซัพพลายเชนชั้นนำของดีเอชแอล ครอบคลุมการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ การพัฒนากลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ยกระดับการจัดการคลังสินค้า ตลอดจนคุณภาพการให้บริการนำเข้า-ส่งออกแบบครบวงจร
โอกาสการเติบโตตลาดอีคอมเมิร์ซ
อีคอมเมิร์ซกำลังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก โดยตลาดอีคอมเมิร์ซไทยมีมูลค่า 29,127 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 ด้วยอัตราการเติบโต 10-15% และคาดว่าในปี 2568 จะเติบโตที่ 20-25%
จำนวนผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึง 4.8 ล้านคน ระหว่างปี 2568 – 2572 ขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกจะมีมูลค่า 6.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 จากผู้บริโภคออนไลน์กว่า 2.77 พันล้านคน (33% ของประชากรโลก) และจะเติบโตต่อเนื่องเป็น 7.95 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570
แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่ขับเคลื่อนการเติบโต
เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ เครือสหพัฒน์ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ “Friday Fair” สำหรับตลาดในประเทศ ซึ่งเปิดให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าคุณภาพจากผู้ประกอบการไทยกว่า 700,000 รายการได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดย DHL eCommerce รับหน้าที่บริหารระบบการจัดการคำสั่งซื้อ และการจัดส่งพัสดุภายในประเทศไทย
สำหรับตลาดระหว่างประเทศ เครือสหพัฒน์ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม “BigXShow” ที่ใช้โมเดล Live Commerce ส่งเสริมสินค้าไทยสู่ตลาดโลกร่วมกับพันธมิตร LALA Stations จากเกาหลีใต้ เชื่อมต่อกับ Influencer จาก 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดย DHL Express รับผิดชอบการบริหารคำสั่งซื้อและการขนส่งระหว่างประเทศ พร้อมเครื่องมือ MyGTS เพื่ออำนวยความสะดวกในกระบวนการศุลกากร
นับตั้งแต่เปิดตัว Friday Fair และ BigXShow ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนผู้ใช้งานและยอดคำสั่งซื้อที่เติบโตต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการเติบโตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
ข้อความจากผู้บริหาร
นายพิภพ โชควัฒนา กรรมการบริษัท กรรมการบริหาร และกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI
“จากความมุ่งมั่นของเครือสหพัฒน์ที่จะพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้เล็งเห็นถึงความเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและความยั่งยืนในภูมิภาคของ DHL จึงได้ร่วมมือกันในเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับศักยภาพด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ของเครือสหพัฒน์ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อีคอมเมิร์ซยังคงเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ เราเชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญระดับโลกและนวัตกรรมของ DHL ผสมผสานกับความเข้าใจบริบทท้องถิ่นของเครือสหพัฒน์ จะช่วยต่อยอดสู่ระบบโลจิสติกส์ที่มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและพร้อมรองรับอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศ รวมกับพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในระดับสากล จะเป็นเสาหลักสำคัญที่ทำให้เราเติบโตได้อย่างมั่นคง รวมถึงช่วยผลักดันการเติบโตทางธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน”
นายเกียรติชัย พิตรปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DHL eCommerce เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“DHL eCommerce มีความเข้าใจในธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจากการเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการและ SME ไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผนวกเข้ากับประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์ระดับโลก ทำให้ DHL eCommerce เป็นผู้นำทางด้านคุณภาพ และเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับลูกค้าที่มองหามาตรฐานการบริการจัดส่งพัสดุด่วนในประเทศที่เหนือกว่า ในราคาที่เข้าถึงได้
เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้เครือสหพัฒน์บรรลุเป้าหมายการขยายตลาดอีคอมเมิร์ซด้วยคุณภาพการจัดส่งที่แตกต่างและตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกๆ ด้าน เราเชื่อมั่นว่าประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดี เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างยั่งยืน”
นายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ DHL Express ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน
“ภาคการส่งออกของไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดย 5 เดือนแรกของปีมีการเติบโตสูงถึง 14.9% แสดงให้เห็นว่าสินค้าไทยมีศักยภาพและได้รับการตอบรับอย่างดีในตลาดโลก ขณะเดียวกัน 52% ของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ทั่วโลกกำลังมองหาผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่งของตลาด อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ในฐานะผู้นำด้านการขนส่งด่วนระหว่างประเทศ เราไม่ได้เป็นเพียงผู้ส่งมอบพัสดุ แต่เป็นสะพานเชื่อมที่ช่วยให้สินค้าไทยและ SME ไทยเข้าถึงผู้บริโภคต่างชาติได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
เราภูมิใจที่ได้ร่วมกับเครือสหพัฒน์ในการขับเคลื่อนอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศด้วยเครือข่ายระดับโลกของ DHL เพื่อทำให้การส่งออกสินค้าไทยสู่ตลาดโลกเป็นเรื่องง่าย และยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก”
ความร่วมมือของดีเอชแอล กรุ๊ป และเครือสหพัฒน์ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงออกสู่ตลาดต่างประเทศด้วยเครือข่าย DHL ที่ครอบคลุม 220 ประเทศทั่วโลก รวมถึงโอกาสในการขับเคลื่อนโซลูชันด้านซัพพลายเชน และรูปแบบการขนส่งแบบผสมผสาน (Multimodal) จาก 4 หน่วยธุรกิจของ DHL ที่ให้บริการในประเทศไทย ด้วยระบบนิเวศอีคอมเมิร์ซที่แข็งแกร่งและยั่งยืนจะขับเคลื่อนให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการค้าออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
