ขณะที่ถนนทุกสายจดจ้องไอเดียกระฉูดแตกของ“บิ๊กปั๊ด-พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ผบ.ตร.ใหม่บ้ายแดงหลังโชว์ปล่อยของผยองเดชในโอกาสรับตำแหน่งใหม่ ประกาศเปรี้ยงกลางดงบิ๊กสีกากีให้ยกเลิกตั้งจุดสกัด-จุดตรวจ-ด่านแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ อ้างทนเสียงประชาชนร้องเรียนไม่ได้ เพื่อทบทวนในหลักเกณฑ์ใหม่ให้ถูกต้องตามระเบียบ-กฎหมาย และตอบโจทย์ความโปร่งใสและเป็นที่สบายใจของพี่น้องประชาชน
เล่นเอาประชาชนกังขาในไอเดียว่าจะเป็นไปหรือไม่? ขณะที่ดงสีกาสีต่างก็งงเป็นไก่ตาแตกยกเล้าว่าสุดท้ายจะเอายังไงกันแน่?จะยกเลิกหรือไม่ยกเลิก ยกเลิกจะเอายังไง ไม่ยกเลิกจะเอายังกับการตั้งด่านทั่วประเทศ ท่ามกลางความมหาทะมึนงงนี้คงต้องรอและลุ้นให้ต้นทางไอเดียอย่างผบ.ตร.คนใหม่ป้ายแดงออกโรงแจงรายละเอียดใน 1-2 นี้
ขณะที่ไอเดียภายใต้ภูมิปัญญาของท่านรมว.คมนาคม“ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”กับเพี่มอัตราความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม.ต่อชม.จากเดิมกฎหมายให้ไม่เกิน 80 กม.ในเขตเมืองและนอกเขตเมืองไม่เกิน90 บนถนนหลวง 4 ช่องจราจรขึ้นไป ซึ่งเป็น 1 ใน 4 นโยบายเร่งด่วนและเป็นอีกหนึ่งความหวังที่หาวรอมานานนับหลังเสนาบดีจคมนาคมได้จุดพลุไฟแห่งความหวังนี้ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวย่างเข้ากระทรวงฯ
ไม่รู้เป็นนโยบายเร่งด่วนอิท่าไหนมิทราบได้?นับตั้งแต่วันนั้นมาเดี๋ยวมีความคืบหน้าเดี๋ยวเงียบหายไปเป็นพักๆพอให้หายอยาก ก่อนหน้านี้ประมาณเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ก็มีความคืบหน้าไปขั้นหนึ่งเมื่อเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.)ที่มีบิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนจัดทำ (ร่าง) กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง คาดกันว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือนจากนี้ไป จากนั้นเจ้ากระทรวงคมนาคมและเจ้าของไอเดียสุดบรรเจิดนี้ จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)อนุมัติเป็นขั้นตอนสุดท้ายต่อไป โดยเบื้องต้นที่ทราบกันดีในโลกข่าวสารกรมทางหลวง (ทล.)ได้เลือกนำร่อง คือถนนทล.หมายเลข 32 (สายเอเชีย) ช่วงบางปะอิน-นครสวรรค์ ในระยะ 50 กม.แรกไปก่อนจากระยะทาง 150 กม.
หวังว่าคงจะไม่ปล่อยให้ประชาชนรอเก้อ&หาวเรอต่อไปแบบไม่มีกำหนดนะขอรับครับท่าน!?
เพราะล่าสุดก็มีความคืบหน้าอีกมาได้เคลิ้มอีกแล้วเมื่อท่านรมต.เจ้ากระทรวงคมนาคมเจ้าเดิม อยู่เฉยไม่ได้เดี๋ยวคะแนนเสียงหายไป ไล่จี้กรมทางหลวงเตรียมความพร้อมกับนโยบายดังกล่าว โดยจะประเดิมให้ประชาชนแตะคันเร่ง 120 กม.ต่อชม.ได้สบายใจเฉิบภายในเดือนต.ค.นี้ โดยไม่ต้องห่วงบรรดาเสือโหยตามข้างทางโผล่ออกมาหลอกหลอน
ขณะที่นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดี ทล. ก็ออกมารับลูกทันควันบอกขณะนี้ ทล. พร้อมดำเนินการใช้ความเร็ว 120 กม.ต่อชม.แล้ว แต่ยังรอการประกาศใช้กฎกระทรวงคมนาคมอยู่ ทั้งนี้ถนนบนทางหลวงที่จะเริ่มเป็นเส้นแรกคือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ช่วงบริเวณหมวดทางหลวงบางปะอิน-ทางต่างระดับอ่างทอง กม. ที่ 4+100-50+000 ระยะทาง 45.9 กม.ซึ่งมีความพร้อมและมีความปลอดภัยในการใช้ความเร็ว120กม.ต่อชม.
ขณะที่กรมทางหลวงชน(ทช.)ก็ไม่ยอมน้อยหน้าในเรื่องนี้ นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) บอกในส่วนของ ทช. ได้เตรียมความพร้อมเปิดทางหลวงชนบท นบ. 3021 หรือถนนราชพฤกษ์ ช่วงถนนสาทรถึง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ระยะทาง 60 กม. รองรับความเร็วรถ 120 กม.ต่อชม.ได้ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 นี้ เป็นเส้นทางแรกของถนน ทช.
สำหรับปมปัญหาอัตราความเร็ว 120 กม./ชม.จากเดิม 90 กม./ชม.ที่ใครต่อใครก็มองว่าเป็นอัตราความเร็วที่ล้าหลังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน ทั้งสภาพความพร้อมถนนหนทาง ผนวกกับพฤติกรรมการแตะคันเร่งของผู้คนเวลาวิ่งต่างจังหวัดโดยเฉพาะถนนสายหลักต่างก็พากันเหยียบเกิน 100 ด้วยกันทั้งนั้น
อีกทั้งยังพิกัดความเร็วตามกม.เดิมยังเป็นข้อพิพาทเดือดระหว่างชาวบ้านตาดำๆกับเจ้าหน้าที่รัฐน้ำเลวบางคนบางกลุ่มดับจับ’กินตับความเร็ว’ชาวบ้านซะจนพุงกางมารู้กี่สิบชาติมาแล้ว ดังฉะนั้น หากมีการปรับแก้อัตราความเร็วใหม่ที่สอดรับความเป็นจริงก็น่าจะดีต่อใจชาวบ้านชาวช่องที่สุดใน 3 โลก
ต้องลุ้นแหล่ะครับว่าต.ค.นี้…จะได้สปีดความเร็ว 120 กม.ต่อชม.แบบสบายใจเฉิบตามน้ำคำท่านรมต.หรือไม่?และหวังว่าโรคเลื่อนจะไม่เล่นงาน(อีก)นะขอรับครับท่าน
…ไม่งั้นมหกรรมจองกฐินรอเพรียบ!
:วิหคไพร