นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นท่าเรือสินค้าหลักของประเทศ โดยปัจจุบันได้เปิดดำเนินการตามโครงการถึงระยะที่ 2 และอยู่ระหว่างดำเนินการขยายสู่โครงการระยะที่ 3 ซึ่งเส้นทางการขนส่งสินค้าทางถนนจะใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 เป็นเส้นทางหลัก ส่งผลให้มีปริมาณการจราจรที่หนาแน่น ประกอบกับในอนาคตเมื่อเปิดใช้งานโครงการในระยะที่ 3 จะทำให้การจราจรติดขัดมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเชื่อมโยงโครงข่ายของจังหวัดชลบุรีให้สมบูรณ์ ลดระยะการขนส่งระหว่างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อำเภอปลวกแดงสู่ท่าเรือแหลมฉบัง แบ่งเบาการจราจรบนถนนสายหลัก
ดังนั้น ทช.จึงได้พัฒนาโครงข่ายทางถนนเพื่อเชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 บริเวณ กม.ที่ 107+200 ไปบรรจบกับท่าเรือแหลมฉบัง โดยได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 – ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ระยะทางรวม 10.570 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 นี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 ระยะทาง 2.770 กิโลเมตร ปัจจุบันมีผลงานความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 96 ตอนที่ 2 ระยะทาง 2.200 กิโลเมตร ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ ตอนที่ 3 ระยะทาง 2.700 กิโลเมตร ปัจจุบันมีผลงานความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 74 และตอนที่ 4 ระยะทาง 2.900 กิโลเมตร ปัจจุบันมีผลงานความก้าวหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 68
โดยก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 6-8 ช่องจราจร มีเกาะกลางถนน ไหล่ทาง เครื่องหมายจราจร ไฟฟ้าแสงสว่าง และสิ่งอำนวยความปลอดภัย พร้อมก่อสร้างสะพานขนาดใหญ่ จำนวน 4 แห่ง ประกอบด้วย สะพานข้ามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) บริเวณ กม.ที่ 9+300, สะพานข้ามทางรถไฟ บริเวณ กม.ที่ 7+225, สะพานข้ามแยกหนองคล้า บริเวณ กม.ที่ 4+578 และสะพานข้ามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 7 (ถนนมอเตอร์เวย์) บริเวณ กม.ที่ 0+800 ซึ่งใช้งบประมาณในการก่อสร้างรวม 1,499.2550 ล้านบาท