วิกฤติด้านสาธารณสุขจากไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการหน้ากากอนามัยในฝรั่งเศสและทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นมาก เพื่อรับมือกับภาวะฉุกเฉินดังกล่าว มิชลินได้ระดมทีมงานและทรัพยากรที่มี ตลอดจนศักยภาพเชิงนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้านการวิจัย ด้านวัสดุ การผลิต และทักษะทางวิทยาศาสตร์ มาใช้ในการพัฒนา ผลิต และส่งมอบหน้ากากอนามัยหลายรูปแบบในปริมาณมากภายใต้กรอบระยะเวลาที่สั้นที่สุด แนวทางริเริ่มดังกล่าวส่งผลให้มิชลินมีบทบาทเชิงรุกที่สำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดทั่วโลกครั้งนี้ โดยมิชลินไม่เพียงจัดเตรียมหน้ากากอนามัยไว้เพื่อปกป้องสุขภาพและสร้างความปลอดภัยให้กับพนักงานของมิชลินเอง แต่ยังได้บริจาคหน้ากากอนามัยจำนวนมากให้กับบุคลากรด้านสาธารณสุขในประเทศที่มิชลินดำเนินธุรกิจอยู่อีกด้วย
เปิดสายการผลิตหน้ากากอนามัย ณ โรงงาน 10 แห่งในยุโรป
ขณะนี้มิชลินอยู่ระหว่างดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัยประเภท Category 1 Surgical Masks ระยะเริ่มต้น โดยตั้งเป้าที่จะผลิตให้ได้สัปดาห์ละราว 400,000 ชิ้น ซึ่งจะเป็นการผลิตจากโรงงานของมิชลินเอง หรือเป็นการผลิตภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจหรือผู้รับเหมารายย่อย พื้นที่ปฏิบัติงานทั้ง 10 แห่งในยุโรปที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมผลิตหน้ากากอนามัยในครั้งนี้ ครอบคลุมโรงงานที่ลากอมโบด (La Combaude) ในเมืองแกลร์มง-แฟร็อง ประเทศฝรั่งเศส, ที่เมืองโอลซ์ทิน ประเทศโปแลนด์, และที่เมืองซาเลา (Zalău) ประเทศโรมาเนีย ทั้งนี้ การดำเนินโครงการริเริ่มเช่นเดียวกันในภูมิภาคอเมริกาเหนือจะช่วยส่งเสริมให้ศักยภาพการผลิตหน้ากากอนามัยประเภทดังกล่าวในยุโรปขยายตัวขึ้นในสัปดาห์ต่อๆ ไป
ร่วมมือกลุ่มบริษัท VOC-COV ออกแบบหน้ากากอนามัย
หน้ากากอนามัยแบบ OCOV® FMP1 หรือ FMP2 ซึ่งพัฒนาและผลิตขึ้นภายในระยะเวลาสั้นเป็นประวัติการณ์ในเขตโอแวร์ญ-โรนาลป์ (Auvergne-Rhône-Alpes) ของฝรั่งเศส เป็นหน้ากากอนามัยที่ราคาไม่แพงและมีความยั่งยืน โดยสามารถผลิตได้ในปริมาณมากและนำกลับมาใช้ซ้ำได้ถึง 100 ครั้ง เนื่องจากใช้แผ่นกรองแบบ 5 ชั้นที่สามารถซักและเปลี่ยนแผ่นกรองได้
ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเดินเครื่องผลิตหน้ากากดังกล่าวล็อตต้นแบบจำนวน 5,000 ชิ้น โดยตั้งเป้าที่จะผลิตหน้ากากให้ได้ 1 ล้านชิ้นต่อสัปดาห์ภายในเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะทำให้ยอดการผลิตหน้ากากทั้งสิ้นอยู่ที่มากกว่า 5 ล้านชิ้นภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบในเชิงการใช้งานจะเทียบเท่าหน้ากากแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งจำนวน 500 ล้านชิ้น
ผลิตกระบังหน้านิรภัยจากโพลีคาร์บอเนต
เนื่องจากโรงพยาบาลหลายแห่งในฝรั่งเศสมีความต้องการใช้งานกระบังหน้านิรภัยเพิ่มขึ้น มิชลินจึงได้เปิดสายการผลิตกระบังหน้านิรภัยจากโพลีคาร์บอเนตที่ผ่านกระบวนการทำให้ปราศจากเชื้อสำหรับการใช้งานของบุคลากรด้านสาธารณสุข โดยในราวต้นสัปดาห์หน้า กลุ่มมิชลินจะเริ่มบริหารจัดการการผลิตกระบังหน้านิรภัยจำนวน 10,000 ชิ้น ด้วยการว่าจ้างให้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจากภายนอกเป็นผู้ดำเนินการผลิต
นอกจากนี้ เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มิชลินยังได้รุกดำเนินโครงการริเริ่มหลายโครงการที่เกี่ยวข้องกับเครื่องช่วยหายใจ, ชิ้นส่วนอุปกรณ์การแพทย์, หมอนรองส่วนต่างๆ ของร่างกายสำหรับผู้ป่วย และเจลล้างมืออนามัยแบบไม่ต้องใช้น้ำ