Grab แอปเรียกใช้บริการรถยอดนิยม ร่วมกับ Volocopter สตาร์ทอัพการบินจากเยอรมัน เพื่อทดสอบบริการแท็กซี่ทางอากาศ โดยทั้งสองบริษัทได้ลงนามความร่วมมือเพื่อศึกษาสำรวจหาเมืองและเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในภูมิภาคนี้ที่จะให้บริการแท็กซี่ทางอากาศ ประเมินแนวทางและหาความเป็นไปได้ของการทดสอบบินร่วม
Volocopter เผยว่า บริษัทมีแผนที่จะใช้แท็กซี่บินได้อัตโนมัติภายใน 5 ปี (แผนเมื่อปี2561) จนถึงตอนนี้ยานบิน eVTOL (electric vertical take-off and landing หรือ รถไฟฟ้าบินขึ้นและลงจอดในแนวตั้ง) ได้ดำเนินการในดูไบ เฮลซิงกิ ลาสเวกัส ชตุทท์การ์ท และสิงคโปร์ ที่ซึ่ง Volocopter พึ่งเปิดออฟฟิศทำการไป บริษัทยังได้พิสูจน์แล้วว่า ยานบินของบริษัทผนวกร่วมกับการจัดการจราจรทางอากาศได้ทั้งแบบมีคนควบคุมและไม่มีคนคุม
ยานบิน 2X ของ Volocopter มีลักษณะเล็ก รูปร่างคล้ายไข่ พร้อมใบพัด 18 ตัว เป็นเสมืองแท็กซี่ทางอากาศสำหรับผู้โดยสารหนึ่งคนในช่วงที่มีการจราจรติดขัดและการปิดถนน แต่แทนที่จะอำนวยความสะดวกในการส่งผู้โดยสารข้ามเมืองอย่างเช่นสนามบิน Volocopter ต้องการเน้นไปที่การเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งในท้องถิ่นนั้นๆ เมื่อบริษัทเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2568 ผู้โดยสารจะถูกส่งไปจาก VoloPort หนึ่งไปยังอีกลานจอดหนึ่ง
ภายในปี 2578 บริษัทตั้งเป้าว่าจะติดตั้ง VoloPort หลายแห่งทั่วสิงคโปร์ ซึ่งในแต่ละจุดสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 10,000 คนต่อวัน เป้าหมายปลายทางก็คือ การขจัดความจำเป็นของโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะเพื่อที่ว่ายาน 2X สามารถลงจอดตามลานจอดรถและพาผู้โดยสารไปดูหนังได้
การร่วมมือกับ Grab นั้นเป็นอีกสัญญาณที่ Volocopter เห็นว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีโอกาสเติบโตได้ Grab ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์นั้นก็ดำเนินการในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไทย เมียนมา กัมพูชา และญี่ปุ่น ความร่วมมือครั้งนี้จึงมีศักยภาพพอที่จะนำไปสู่การขยายการเดินทางสู่เนิ่นฟ้าได้ อ้างอิง : https://www.engadget.com/2020/02/18/volocopter-air-taxi-southeast-asia-feasibility-study/