แผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งโซนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล โดยเฉพาะ โดยเฉพาะแนวรถไฟฟ้า 5 สายทางที่กำลังก่อสร้างและมีแผนก่อสร้าง ส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่ โดยเฉพาะราคาที่ดินที่ขยับเพิ่มขึ้นอย่างน่าจับตามอง
สำหรับราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาที่เพิ่มมาก ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลายสายรถไฟฟ้าที่มีแผนจะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร
ส่วนทำเลเฉพาะที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าผ่าน 5 อันดับแรก ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นทำเลที่มีแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และที่มีแผนจะก่อสร้างในอนาคต ได้แก่
1) สายสีเขียวเหนือ (คูคต-ลำลูกกา) ซึ่งเป็นโครงการที่ยังไม่ก่อสร้างแต่ เป็นส่วนต่อขยายของสายสีเขียว (หมอชิต – สะพานใหม่ – คูคต) ที่สร้างเสร็จเปิดให้บริการแล้ว 4 สถานี มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 66.0 ซึ่งบริเวณนี้มีการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินมากที่สุดต่อเนื่องมาหลายไตรมาส แล้ว
2) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 34.8 ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยรวมมีความคืบหน้าการก่อสร้างไปแล้ว 48.1%
3) สายสีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน-ศาลายา) ซึ่งเป็นโครงการที่มีแผนจะก่อสร้างในอนาคต มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8
4) สายสีเขียว ใต้ (สมุทรปราการ-บางปู) เป็นโครงการที่มีแผนจะก่อสร้างในอนาคต ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายจากสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.7 เช่นเดียวกับ สายสีเขียวใต้(แบริ่งสมุทรปราการ) ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการไปแล้วประมาณ 1 ปีที่มีอัตราการเปลี่ยนของราคาเพิ่มขึ้น ร้อยละ 7.7
5) สายสีเทา (วัชรพล-พระราม 9 -ท่าพระ) ซึ่งเป็นโครงการที่มีแผนจะก่อสร้างในอนาคต มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6
สำหรับทุนใหญ่ที่ดินแนวรถไฟฟ้า ทั้ง 5 สายที่มีแผนก็สร้างคงต่างจับจ้องตาเป็นประกาย และอย่างที่กล่าวในตอนต้น กว่ารถไฟฟ้า 5 สายสร้างเสร็จราคาที่ดินก็ไม่อาจจับต้องได้อีกต่อไป …เพราะทุนใหญ่กว้านซื้อเรียบ ไว้มีโอกาสจะหาหลักฐานข้อยืนยันสมมติฐานนี้ให้ดู