ขนส่งฯตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในภาวะวิกฤต ยกระดับความเข้มข้นบังคับใช้กฎหมายกับรถบรรทุกหรือรถโดยสารที่มีค่าควันดำเกินกำหนด ฝ่าฝืนนำรถควันดำที่พ่น “ห้ามใช้”ออกมาวิ่ง ถูกปรับ 5 หมื่นบาทพร้อมบันทึกประวัติความผิดมีผลต่อการชำระภาษีรถประจำปี
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ในภาวะวิกฤต ตามนโยบายรัฐบาลที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยเร่งด่วน
ขบ.ได้จัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน และได้ยกระดับความเข้มข้นบังคับใช้กฎหมายกับรถบรรทุกหรือรถโดยสารที่มีค่าควันดำเกินกำหนด (เกินกว่า 45%) อย่างเด็ดขาด หากตรวจพบจะเปรียบเทียบปรับ 5,000 บาท และออกคำสั่งห้ามใช้รถ (พ่นข้อความห้ามใช้) โดยเจ้าของรถต้องนำรถไปแก้ไขและเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง ซึ่งต้องผ่านการตรวจสภาพและค่าควันดำไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด เจ้าหน้าที่จึงจะยกเลิกคำสั่งห้ามใช้และสามารถนำรถไปใช้งานได้ตามเดิม
หากเจ้าของรถฝ่าฝืนใช้รถคันดังกล่าวโดยไม่ดำเนินการแก้ไขจะมีความผิดปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท พร้อมบันทึกประวัติความผิดและจะมีผลต่อการชำระภาษีรถประจำปี ส่วนกรณีตรวจพบรถที่มีค่าควันดำไม่เกินกำหนด (ระหว่าง 30 – 44%) จะออกหนังสือเตือนให้เจ้าของรถ หมั่นตรวจสอบดูแลสภาพรถไม่ให้เกิดควันดำ ทั้งนี้ สถิติตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารสะสมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 – 5 กุมภาพันธ์ 2563 ตรวจรถทั้งสิ้น 115,228 คันพบรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดและได้ดำเนินการพ่นข้อความห้ามใช้ 1,984 คัน
ทั้งนี้ ขบ. เชิญชวนประชาชนให้มีส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยตรวจสอบสภาพรถเบื้องต้นด้วยตัวเองเพื่อให้รถอยู่ในสภาพปกติ ไม่เกิดควันดำ ทำความสะอาดไส้กรองอากาศอย่างสม่ำเสมอ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตกำหนด ตรวจเช็คหัวฉีดและปั๊มหัวฉีดน้ำมันให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน หมั่นดูแลเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อปัญหาควันดำเมื่อใช้งานบนท้องถนน หากพบรถบรรทุกหรือรถโดยสารควันดำ สามารถส่งหลักฐานร้องเรียนผ่านศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584
