อย่าได้คิดเชียวว่าขนส่งฯจะอ่อนกำลังตั้งด่านตรวจจับควันดำรถบรรทุก-รถโดยสารลงแม้จะไทยแลนด์จะเข้าแดนหน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้วก็ตาม หรือแม้แต่จะถูกปกคลุมด้วยหมอกควันพิษวิกฤติไวรัสสูบนรกโควิด-19 ที่กลับมาหลอนประชาชนคนไทยทุกซอกหลืบต่างขวัญผวาพลางสะพรึงตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในแต่ละวันก็ตาม
ทว่า ขนส่งฯยังทำงานอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง ล่าสุด (15 พ.ค.64)ก็ประกาศผลสอบการตั้งด่านตรวจควันดำรถบรรทุก-รถโดยสารทั่วประเทศ หวังพุ่งชนเป้าหมายรูทีนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 เฉพาะ 15 พ.ค.64 ลุยตรวจวัดควันดำทั่วประเทศ 521คัน พบรถที่มีค่าควันดำเกินเกณฑ์มาตรฐาน 1 คัน ส่วนรถค่าควันดำ 30 – 45 % ได้ออกใบไปบำรุงดูแลรักษารถไม่ให้มีค่าควันดำเกิน 31 คัน
ส่วนสถิติจากการระดมกำลังตรวจควันดำสิริ 7 เดือน 12 วัน(1 ต.ค.63-15 พ.ค.64)ขนส่งฯดาหน้าตรวจควันดำรถทั้งสิ้น 177,918 คัน พร้อมบรรจงพ่นดับซ่าส์“ห้ามใช้”แล้วจำนวน 1,480 คัน
แถมยังกำชับผู้ประกอบการและเจ้าของรถทุกคันที่ถูกพ่นสีแดง “ห้ามใช้”แล้ว ต้องนำรถไปแก้ไขและนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งซะก่อน หากฝ่าฝืนยังดื้อรั้นนำใช้รถโดยที่มีคำสั่งห้ามใช้มีความผิดตามกฎหมายนะจ๊ะ!
ขนส่งฯเขาจริงจังและเข้มงวดมากเลยกับเรื่องพันธุ์นี้ ยังไงผู้ประกอบการขนส่งและเจ้าของรถบรรทุก-รถโดยสารพึงหมั่นดูแลสุขภาพอนามัยด้านควันดำของรถราที่มีอยู่ใช้งานอยู่ให้ถูกต้องและได้มาตรฐานตามข้อกำหนดของกรมฯพลางรู้เขารู้เราด้วยเด้อพี่น้อง!
เพราะตราบใดที่ไอ้ฝุ่นพิษ PM2.5 ยังจมปรักอยู่กับตำราเดิมๆวงจรการแก้ปัญหาเดิมๆแบบนี้ก็ยังวนลูบรูทีนอยู่ยังงี้ไม่รู้จบสิ้น…จริงๆพระเดชพระคุณท่าน!