ในสภาวะที่เกิดฝุ่นพิษ PM 2.5 ขึ้น หลายหน่วยงานพุ่งเป้ามาที่กลุ่มรถใหญ่ว่าเป็นกลุ่มหลักที่ก่อให้เกิดมลพิษมากที่สุด เพราะใช้น้ำมันดีเซลในปริมาณที่มากถึงวันละ 60 ล้านลิตร แต่เมื่อมองลึกมายังกลุ่มรถยนต์ทั่วไป จะเห็นได้ว่า มีการใช้น้ำมันมากเกินวันละ 150 ล้านลิตรทีเดียว นี่ยังไม่รวมกลุ่มการผลิตไฟฟ้า การเผาในที่โล่ง และอุตสาหกรรมการผลิต ที่ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน
เมื่อปัญหาเกิดขึ้น รัฐบาลจึงตีฆ้องร้องป่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีแก้ปัญหาโดยด่วน เช่นเดียวกับกระทรวงคมนาคม ที่สั่งการให้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้ร่มเงา เร่งกำจัดสิ่งที่ก่อปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 ให้หมดสิ้นไปจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ล่าสุด ได้เชิญกลุ่มขนส่ง ทั้งสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย สมาคมรถโดยสาร กลุ่มผู้ประกอบการ ภาคีเครื่อข่ายภาครัฐ และเอกชน เข้าไปร่วมหารือและหาวิธีแก้ไขปัญหาเรื่องฝุ่นพิษร่วมกัน
คมนาคมสั่งตรวจรถควันดำ
คุณอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือสมาชิกสหพันธ์การขนส่งฯ และสมาชิกผู้ประกอบการรถโดยสาร ในการรณรงค์ลดการใช้พลังงาน เพื่อช่วยลดฝุ่นละอองและเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ต่างๆ เช่น การหลีกเลี่ยงเส้นทางการเดินรถในช่วงการจราจรเร่งด่วนและคับคั่ง ตรวจสอบดูแลเครื่องยนต์ให้อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดเรื่องควันดำ ไม่ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้โดยไม่จำเป็น วางแผนการเดินรถให้ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ซึ่งสหพันธ์การขนส่งฯ และสมาชิกฯ ได้ให้ความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ทั้งยังเป็นการช่วยลดต้นทุนในภาคการขนส่ง เป็นการแก้ไขปัญหาร่วมกันในเชิงบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพด้วย
กลุ่มรถใหญ่ไม่ใช่จำเลยสังคม
คุณอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง รักษาการประธานสหพันธ์การขนส่งฯ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้นไม่อยากให้นำเอากลุ่มรถใหญ่ไปเป็นจำเลยของสังคม เพราะทางกลุ่มรถใหญ่ก็เล็งเห็นถึงความปลอดภัยของชีวิตเราด้วย ทุกคนเจอปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ กลุ่มรถใหญ่ก็เจอปัญหานี้ด้วยเช่นกัน
“มีการตั้งด่านสกัดไม่ให้รถบรรทุกเข้ามาในพื้นที่ กทม. เพราะไม่อยากให้เกิดฝุ่นเกินค่ามาตรฐานในพื้นที่เมือง ทางสหพันธ์ฯ ก็พร้อมให้ความร่วมมือ และจะไม่เข้ามาในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน แต่ก็อยากขอให้ภาครัฐอย่าตั้งด่านตรวจควันดำช่วงขาออกจาก กทม. เพราะการตั้งด่านนั้น ทำให้รถติดมาก ตรงนี้จะเป็นการทำให้มีการเผาไหม้น้ำมันจนกลายเป็นฝุ่นพิษในบริเวณกว้างได้ ทั้งนี้ ก็อยากขอให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องจัดหาพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้าที่อยู่นอกเมืองให้ เพราะบางจุดได้กลายเป็นพื้นที่เมืองแล้ว เช่น ศูนย์ฯ พุทธมณฑล สาย 5 ที่เมื่อก่อนเป็นทุ่งนาและอยู่นอกเมือง แต่ตอนนี้กลายเป็นพื้นที่เมืองไปแล้ว”
ปลุกผีก๊าซธรรมชาติ NGV
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีจำนวนรถใหญ่ที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกประมาณ 1 ล้านคัน ในจำนวน 2.4 แสนคัน เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ ที่อยู่ในสมาคมขนส่งฯ ทั้ง 13 แห่ง และร่วมมือกับภาครัฐในการทำถูกกฎหมายมาโดยตลอด
และที่ผ่านมาทางสหพันธ์ฯ ได้ทำตามนโยบายรัฐในการเปลี่ยนจากดีเซลมาเป็น NGV แต่สุดท้ายก็ถูกภาครัฐปล่อยลอยตัว NGV จนราคาสูงขึ้นถึง 15-16 บาท ถึงแม้ว่าจะถูกกว่าน้ำมันดีเซลแต่ก็มีค่าบำรุงรักษาที่สูงกว่า ทางผู้ประกอบการจึงถอดทิ้งหมด และนำเครื่องยนต์ดีเซลกลับมาใช้ใหม่ เพราะคุ้มค่ากว่า ดังนั้น ถ้าอยากให้ทางกลุ่มขนส่งกลับมาใช้ NGV อีกครั้ง ก็ควรสนับสนุนอย่าปล่อยให้ NGV ขาดตลาดและปล่อยลอยตัวจนสูงกว่าน้ำมันดีเซลเกินครึ่งตามที่เคย MOU ร่วมกันไว้
วอนรัฐหนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ ทางกลุ่มขนส่งยังเคยใช้น้ำมัน B70 และ B80 ซึ่งมากกว่า B20 ที่รัฐสนับสนุนให้ใช้ในปัจจุบันนี้ แต่ในขณะนั้น ราคาน้ำมันปาล์มไม่นิ่งจึงต้องเลิกใช้กันไป ดังนั้น จึงอยากให้ภาครัฐหันมาสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เช่นเดียวกับประเทศจีน ที่ถึงแม้ว่าจะมีประชากรมากกว่า 1 พันล้านคน แต่ก็สามารถสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังไฟฟ้าได้
“เจ๊เกียว” ใช้รถบัสยูโร 4 ทุกคัน
เจ๊เกียว-สุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารขนส่ง เปิดเผยว่า รถของบริษัท เชิดชัย ไม่เคยโดนจับควันดำเลยสักครั้ง เพราะได้ทำการตรวจสอบตลอดเวลา และรถบัสทุกคันใช้ยูโร 4 หมดแล้ว ถ้ามีการจับเมื่อไหร่ก็ไม่เคยเสียเงิน เพราะคนขับต้องจ่ายค่าปรับเอง เหตุเพราะดูแลรถไม่ดี
“บริษัทฯ มีนโยบายชัดเจนอยู่แล้วว่า พนักงานขับรถอย่าทำผิดนะ ถ้าทำผิดแล้วโดนจับเมื่อไหร่ก็ต้องจ่ายค่าปรับเอง ยิ่งถ้ารถคันใดเป็นควันดำที่เป็นมลพิษทางอากาศ จะต้องทำความสะอาดเครื่องยนต์ให้ดี โดยเฉพาะท่อไอเสีย เพราะเขม่าควันดำจะอยู่บริเวณนี้เยอะ พอกลับมาต้องล้างทำความสะอาด ตรงนี้จะช่วยได้เป็นอย่างดี”
อย่างไรก็ดี จากประสบการที่ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 50 ปี จะรู้หมดเกี่ยวกับเรื่องรถบัส จึงตั้งใจเปิดศูนย์ตรวจเช็คควันดำให้กลุ่มรถบัสฟรี เพราะไม่อยากให้วงการรถบัสถูกจับควันดำ และรถใหญ่ก็ไม่ใช่จำเลยสังคมในเรื่อง PM 2.5 แน่นอน
รถร่วม ขสมก. ใช้ NGV ทั้งหมด
คุณภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง หรือ รถร่วมบริการ ขสมก. กล่าวว่า รถร่วมฯ ได้มีการปรับเป็นรถเมล์ NGV ทุกคันแล้ว จึงไม่อยากให้มองว่าเราไม่ใช้จำเลยของสังคม และอีกไม่นานจะทำการปรับเปลี่ยนเป็นรถเมล์ใหม่ เพราะทางเราก็อยากบริการประชาชนให้ดี เพื่อให้คนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะ เพื่อร่วมมือกันลดค่าฝุ่น PM 2.5
: มุมมืด