สถิติรถบรรทุกหายในประเทศไทยพุ่ง เจ้าของรถสุดช้ำ มีขบวนการฉ้อโกงนำไปดัดแปลงสภาพรถฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนนำกลับมาขายในเต็นท์รถมือสองที่เมืองไทย เจ้าของรถเสียเงินเสียทองและเสียเวลาตาหาจนเจอ ตอนนี้รถจอดตรวจสภาพอยู่ที่ สภ.เมือง จ.นครพนม วอนสำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยกำจัด เผยขบวนการนี้คนมีสีร่วมเอี่ยวด้วย
แหล่งข่าวจากวงการรถใหญ่ เปิดเผยว่า ตลอดปี 2561 ที่ผ่านมา มีสถิติรถบรรทุกสูญหายในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก้เจ้าของรถเป็นอย่างมาก โดยการสูญหายในแต่ละครั้งนั้น จะมีขบวนการฉ้อโกง ทำท่าทีเข้ามาเช่าซื้อรถบรรทุกป้ายแดง โดยมีเงินมัดจำจำนวนมากถึง 4 แสนบาท และเมื่อทำการเช็คประวัติแล้ว ก็จะไม่พบพิรุธใด ๆ เลย เนื่องจากว่า มียอดเงินหมุนในบัญชีเป็นจำนวนมาก และมีฐานะทางการเงินที่ดีด้วย
เมื่อนำเงิน 4 แสนมามัดจำ ทางผู้ขายก็พร้อมปล่อยให้ทันที และเมื่อผู้ร้ายได้รถไปแล้วก็จะนำรถวิ่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อดัดแปลงสภาพรถใหม่ แล้วนำกลับเข้ามาขายในเต็นท์รถมือสองที่เมืองไทย และตั้งราคาขายในราคาที่สูงเกือบ 3 ล้านบาท ซึ่งขบวนการนี้จะมีกำไรมากถึง 2 ล้านบาทต่อคันทีเดียว
และล่าสุด ก็มีการเข้าไปเช่ารถบรรทุกจากผู้ประกอบการขนส่งในจังหวัดนครพนม ในราคา 1 แสนบาท และนำรถหายสาปสูญไปไม่สามารถติดต่อได้ ทางผู้ประกอบการขนส่งจึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ไม่สามารถตามจับตัวมาลงโทษได้ เพราะขบวนการนี้มีนายใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ทางราชการยศสูง จึงไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปท้าทายอำนาจมืดนี้ได้
เมื่อสืบชัดเข้าไปอีก ก็จะทราบว่า ยอดรถบรรทุกสูญหายมีทั้งในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก และก็เป็นขบวนการเดียวกันนี้ด้วย ซึ่งขบวนการฉ้อโกงนี้ จะทำงานกันเป็นทีม มีฐานะทางการเงินหมุนเวียนที่ดี ไม่เกรงกลัวอำนาจรัฐ เพราะการเสี่ยงแต่ละครั้งจะมีเงินการันตีให้มากถึงคันละ 1 ล้านบาท ถ้าเป็นรถใหญ่ป้ายแดง แต่ถ้าเป็นรถของผู้ประกอบการขนส่งที่ปล่อยให้เช่าก็จะได้มากถึง 7 แสนบาททีเดียว ว่ากันว่า คนที่รับซื้อรถใหญ่นี้ จะเป็นคนมีสีและมีอำนาจ รวมถึงเป็นนักการเมืองท้องถิ่นด้วย
ผู้ประกอบการขนส่งที่ถูกขบวนการฉ้อโกงรถบรรทุกไป เล่าให้ฟังว่า ทราบดีว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีคดีที่ต้องสะสางเยอะ ตนจึงรอช้าไม่ได้ที่จะต้องตามหารถเอง จึงเสาะหารถของตัวเองให้กลับคืนมาให้ได้ และได้ไปเห็นรถหัวลากของตัวเองจอดอยู่ในเต็นท์ขายรถมือสอง และขายอยู่ใกล้ๆ บริษัทของตัวเองด้วย จึงทำท่าทีว่าจะเข้าไปซื้อรถใหญ่คันนี้ เมื่อตรวจดูรถแล้วจะมีการปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่าง แต่รถใหญ่คันนี้คือรถตัวเองจึงจำได้ ที่สำคัญป้ายสติ๊กเกอร์ของบริษัทก็ยังมีคราบติดอยู่ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการจับกุมได้
“ผู้ร้ายให้การยอมรับว่า เป็นผู้กระทำการฉ้อโกงจริง และยังทำการต่อลองอย่างหน้าตาเฉยว่า ขอให้ทำภารกิจอื่นผ่านก่อนได้ไหม แล้วจะนำเงินมาชดเชยให้ ซึ่งดูแล้วไม่มีความเกรงกลัวที่จะติดคุกเลย ไม่ทราบว่าหลุดมาจากโลกไหน หรือดาวไหน ทำไมจิตใจถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ ไม่คิดถึงหัวอกของคนทำงานหาเช้ากินค่ำบ้างเลย และตอนนี้รถใหญ่ของผมก็จอดรอตรวจสภาพอยู่ที่ สภ.เมือง จ.นครพนม จึงอยากขอวิงวอนให้ภาครัฐ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยกำจัดขบวนการนี้ให้สิ้งซากไปจากโลกเรา เพื่อให้พี่น้องรถใหญ่ทำงานอย่างไม่ต้องกังวลใจอะไรอีก”
BY…มุมมืด