หลังจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. ได้รับไฟเขียวก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 วงเงินกว่า 62,000 ล้านบาท ความคืบหน้าล่าสุดก็ก้าวหน้าไปกว่า 90% แล้ว โดยงานก่อสร้างสำคัญของโครงการนี้คืออาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ (SAT 1)
อาคารดังกล่าว จะมี 28 หลุมจอด รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ A380 ได้พร้อมกัน 8 ลำ และอื่นๆ อีก 20 ลำ ในเวลาเดียวกัน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี และรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นจาก 60-63 เที่ยวบินต่อชม.เป็น 68 เที่ยวบินต่อชม. คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 63
เมื่อโครงการเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของงานแล้ว สิ่งที่ ทอท.ต้องเตรียมพร้อมอีกอย่างก็คือ งานติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) หรือรถไฟฟ้าไร้คนขับ ซึ่งจะมีรถไฟฟ้า รุ่น Airval วิ่งใต้ดินให้บริการรับส่งผู้โดยสารระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน กับอาคาร SAT 1 ซึ่งถือเป็นแห่งแรกและครั้งแรกของไทยที่จะมีรถไฟฟ้าให้บริการฟรีภายในสนามบิน
ล่าสุด บริษัท ซีเมนส์ จำกัด ได้ส่งตรงรถไฟฟ้าไร้คนขับล็อตแรกมาจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียแล้ว 1 ขบวน จำนวน 2 ตู้ โดยวันที่ 11 ก.ค. 2563 นี้ ผู้บริหาร ทอท. จะลงพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อรับมอบรถไฟฟ้า ก่อนที่จะนำกลับมาเก็บไว้ภายในอุโมงค์ของอาคาร SAT 1
และในวันที่ 12 ก.ค.นี้ จะเริ่มนำมาวิ่งทดสอบระบบภายในอุโมงค์ทันที โดยจะวิ่งใต้ดินไปกลับระหว่างอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน และอาคาร SAT 1 ซึ่งมีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.) ใช้เวลาในการเดินรถประมาณ 2 นาทีต่อเที่ยว เพื่อทดสอบค่าพารามิเตอร์ต่างๆ ของระบบรถไฟฟ้าว่าตรงกับค่าที่กำหนดหรือไม่ โดยจะใช้เวลาในการทดสอบไปจนถึงประมาณปลายปีนี้ เพื่อให้ระบบมีความเสถียร แม่นยำ และตรงต่อเวลา
สำหรับขบวนรถที่เหลือนั้น อยู่ระหว่างการประกอบ ซึ่งทางบริษัท ซีเมนส์ ฯ จะทยอยส่งมาให้ โดยจะครบทั้งหมด 6 ขบวน 12 ตู้ ภายในปลายปีนี้ และพร้อมให้บริการผู้โดยสารในเดือน ก.ย. 2564 โดยจะวิ่งสลับกันครั้งละ 2-3 ขบวน ส่วนอีก 1 ขบวนเก็บไว้ใช้สำรอง
รถไฟฟ้าไร้คนขับ รุ่น Airval ผลิตในโรงงานที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย รถไฟฟ้าเป็นล้อยาง จะยึดเกาะได้ดีในพื้นที่ลาดเอียง เมื่อเข้าโค้งจะให้เสียงค่อนข้างเงียบกว่าระบบรถไฟฟ้าอื่น ใช้ความเร็วการทำงานสูงสุดที่ 80 กม.ต่อชั่วโมง(ชม.) รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 210 คนต่อขบวน หรือประมาณ 6,000 คนต่อชั่วโมง
: นายสะพานโค้ง
