กระทรวงคมนาคม ร่วมพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคมร่วมพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี 2568 โดยมี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมพิธี ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน ในปี 2568 รัฐบาลไทยได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากวัดหลิงกวง สาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ ประชาชนสามารถเข้าสักการะพระเขี้ยวแก้วได้ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2567 – 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 07.00 – 20.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมดอกไม้สักการะ (ประชาชนไม่ต้องนำมาเอง) และมีโปสต์การ์ดพร้อมบทสวดบูชาพระเขี้ยวแก้วมอบให้ ทั้งนี้ ผู้ที่จะเข้าสักการะพระเขี้ยวแก้วต้องนำบัตรประชาชนแสดงเพื่อยืนยันตัวตนด้วย
ในโอกาสนี้ กระทรวงคมนาคม ได้อำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางมาสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ณ มลฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยกรมเจ้าท่า จัดเรือข้ามฟากจากฝั่งธนบุรี มาฝั่งพระนคร เส้นทางท่าเรือวัดระฆังฯ – ท่าเรือวัดอรุณฯ – ท่าเรือท่าช้าง ระหว่างวันที่ 5 – 11 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จัดเดินรถโดยสารธรรมดาให้บริการประชาชน 2 เส้นทาง (จอดรับ – ส่งทุกป้าย) เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สนามหลวง (จอดส่งใต้สะพานพระปิ่นเกล้า ฝั่งพระนคร) และเส้นทางวงเวียนใหญ่ – สนามหลวง (จอดส่ง ตรงข้ามศาลฎีกา) โดยท่าต้นทางเที่ยวแรก เวลา 07.00 น. เที่ยวสุดท้าย เวลา 19.30 น. ท่าปลายทางเที่ยวสุดท้าย เวลา 20.30 หรือจนกว่าผู้มาร่วมงานหมด โดยจะมีรถบริการทุก 20 นาที ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2567 – 14 กุมภาพันธ์ 2568