วอลโว่ ทรัคส์ ส่งมอบรถบรรทุก Volvo FH จำนวน 14 คัน ให้กับ วัฒนะกล ทรานสปอร์ต 2001 เพื่อสนับสนุนการขนส่งกังหันลมขนาดใหญ่ 133 ตัน ข้ามพรมแดนมุ่งสู่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมทางตอนใต้ของสปป.ลาว
บริษัท วัฒนะกล ทรานสปอร์ต 2001 จำกัด เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านภารกิจขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ที่มีผลงานโดดเด่นในอุตสาหกรรมการขนส่งของประเทศไทย ล่าสุดบริษัทได้เสริมความแข็งแกร่งให้ฟลีทด้วยรถบรรทุกวอลโว่ FH ใหม่จำนวน 14 คัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งมอบความเป็นเลิศในด้านการขนส่งสินค้าหนักข้ามพรมแดน ขุมพลังใหม่เหล่านี้ประกอบด้วยรถบรรทุกวอลโว่ FH เครื่องยนต์ 440 แรงม้าจำนวน 10 คัน และ 610 แรงม้าอีกจำนวน 4 คัน ซึ่งถือเป็นการขยายฟลีทรถหัวลากของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัท วัฒนะกล ทรานสปอร์ต 2001 จำกัด เริ่มต้นการเดินทางในปี พ.ศ. 2544 โดยจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนขนาดเล็ก โดยมี คุณอรรนพ ชื่นสมถ้อย ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทเป็นผู้ก่อตั้ง จากจุดเริ่มต้นที่มีรถบรรทุกหกล้อเพียงหนึ่งคันสำหรับบริการขนส่งสินค้าทั่วไป บริษัทเริ่มเติบโตขึ้นพร้อมกับวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของคุณอรรนพ
หนึ่งทศวรรษที่แล้วถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัท โดยเปลี่ยนจากการขนส่งสินค้าทั่วไปสู่ความท้าทายที่สูงขึ้นกับภารกิจขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ การเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล: เพื่อทำให้บริษัทไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขันในการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ ซึ่งเดิมทีเป็นตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศเท่านั้น นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญบนเส้นทางการประกอบธุรกิจของบริษัท
ปัจจุบัน วัฒนะกล ทรานสปอร์ตครองตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทเป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนให้กับความสำเร็จของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในประเทศลาว โครงการขนาดใหญ่ที่ผ่านมาได้แก่ การขนส่งสัมภาระไปยังโครงการโรงไฟฟ้าหงสาเมื่อกว่า 12 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นภารกิจขนส่งมากกว่า 10,000 เที่ยวผ่านภูมิประเทศที่สูงชันและเส้นทางทุรกันดารในประเทศลาว นับเป็นผลงานชิ้นสำคัญที่แสดงถึงศักยภาพของรถบรรทุกวอลโว่ FH
วัฒนะกล ทรานสปอร์ต 2001 ได้เพิ่มรถบรรทุก Volvo FH จำนวน 14 คันในล็อตใหม่นี้ ให้กับโครงการไฟฟ้าพลังงานลมมอนซูน (Monsoon Wind Farm) ทางตอนใต้ของสปป.ลาว ใกล้ชายแดนเวียดนาม โครงการนี้มีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท โดยมีการติดตั้งกังหันลม 133 ต้น เพื่อผลิตพลังงานสะอาดสำหรับส่งออกไปยังเวียดนาม การขนส่งส่วนประกอบเป็นภารกิจที่ท้าทาย โดยต้องเดินทางมากถึง 1,500 เที่ยว และขนส่งสินค้าขนาดใหญ่พิเศษเกิน 100 เมตร คาดว่ากระบวนการขนส่งทั้งหมดจะใช้เวลา 14 เดือน สิ้นสุดในเดือนตุลาคม 2567
ระยะการเดินทางที่ยาวไกลนี้ เริ่มจากท่าเรือแหลมฉบัง เดินทางกว่า 800 กิโลเมตรข้ามไปยังชายแดน ต่อด้วยการเดินทางอีก 200 กิโลเมตรภายในประเทศลาว คิดเป็นระยะทางไปกลับกว่า 2,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาของสปป.ลาว ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของเครือข่ายถนน ยังได้สร้างความท้าทายให้กับทีมขนส่งอีกด้วย
นายอรรนพ ชื่นสมถ้อย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วัฒนะกล ทรานสปอร์ต 2001 จำกัด กล่าวว่า “สำหรับโครงการนี้ มีการเดินทางขนส่งสินค้าไปแล้วมากกว่า 200 เที่ยว แต่เนินเขาที่ท้าทายเป็นอุปสรรคขัดขวางความคืบหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เราจึงซื้อรถบรรทุก Volvo FH 610 แรงม้า เนื่องจากความแข็งแกร่ง เครื่องยนต์กำลังแรง บำรุงรักษาง่าย มีศูนย์บริการตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ และอะไหล่ที่พร้อมให้บริการ นอกจากนี้ การบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ศูนย์บริการที่ตั้งอยู่ตลอดเส้นทางการขนส่ง และความพร้อมของบริการ action service และ mobile service รวมถึงความพร้อมของอะไหล่ ล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้บริษัทเลือกใช้วอลโว่กับภารกิจครั้งนี้”
สำหรับมุมมองด้านการขนส่งทางถนนในประเทศไทยนั้น คุณอรรนพมีความเห็นว่าการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และสินค้าหนักทางถนนยังมีแนวโน้มที่ดีแม้ในปัจจุบันจะมีการพัฒนาระบบขนส่งทางรางเกิดขึ้นตามมาเป็นจำนวนมากก็ตาม บทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการขนส่งทางถนนไปยังประเทศเพื่อนบ้านจะยังคงมีความสำคัญต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ และในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบ วัฒนะกล ทรานสปอร์ตมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการขนส่งทางถนนที่ปลอดภัย บริษัทพร้อมสนับสนุนกิจการขนาดเล็กอย่างจริงจังด้วยการให้คำแนะนำ พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ซึ่งมีส่วนช่วยปรับปรุงภาคการขนส่งของประเทศในภาพรวม
นายมาร์ติน ซอมเมอร์ รองประธานฝ่ายขาย วอลโว่ ทรัคส์ ประเทศไทย กล่าวปิดท้ายถึงโอกาสครบรอบ 30 ปีของ Volvo FH และการส่งมอบรถบรรทุกครั้งนี้ ว่า “การได้เห็นระบบโลจิสติกส์ที่ซับซ้อนของภารกิจการขนส่งระดับภูมิภาคเช่นนี้ เน้นย้ำให้เห็นถึงความเป็นเลิศที่คงอยู่มาอย่างยาวนานของ Volvo FH ด้วยความสะดวกสบายของคนขับ การประหยัดน้ำมัน คุณลักษณะด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้ Volvo FH ยังคงครองตำแหน่งผลิตภัณฑ์เรือธงต่อไป ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่ Volvo FH เป็นส่วนสำคัญของภารกิจที่สำคัญนี้ โดยขับเคลื่อนธุรกิจของลูกค้าให้ก้าวสูงขึ้นไปอีกระดับและได้รับการยอมรับในระดับโลก เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า Volvo FH จะยังคงขับเคลื่อนความสำเร็จของวัฒนะกล ทรานสปอร์ต ได้อย่างราบรื่น สอดคล้องกับปณิธานของบริษัทต่อไป”
