“กรมเจ้าท่า” ปักหมุดปีงบประมาณ 2566 สานต่อการสำรวจและจัดทำแผนที่ร่องน้ำแบบบูรณาการ เพื่อสนับสนุนแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำในการสร้างขีดความสามารถการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทย หวังเชื่อมโยงโลกการค้าระดับภูมิภาค พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจมหาภาคอย่างยั่งยืน
กรมเจ้าท่า โดยกองสำรวจและแผนที่ดำเนินการเกี่ยวกับการสำรวจและสร้างแผนที่ร่องน้ำภายในประเทศ และร่องน้ำชายฝั่งทะเล เพื่อใช้ประโยชน์ในการบำรุงรักษาร่องน้ำให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ดี สอดรับกับระดับสากล ส่งเสริมการคมนาคมทางน้ำที่เชื่อมโยงการขนส่งแบบไร้รอยต่อ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการเพิ่มขีดแข่งขันของประเทศ
ประเทศไทยถือว่าเป็นประตูแห่งการค้าและการลงทุน การขนส่งหรือระบบโลจิสติกส์ที่เชื่อมโยงกับระบบขนส่งอื่นๆ ทั้งทางบกทางน้ำ และทางอากาศ เข้าด้วยกันซึ่งถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทยที่จะเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน การจัดทำแผนที่ให้ทันสมัยและนำมาใช้เพื่อการดูแล รักษาร่องน้ำทางเรือเดิน แม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ตลอดจนการควบคุมตรวจตราความปลอดภัย ดูแลการคมนาคมและขนส่งทางน้ำทั่วทั้งประเทศให้มีประสิทธิภาพในด้านคมนาคมและการขนส่งทางน้ำก็จะสร้างความสามารถให้กับเอกชนและการค้าของไทย รวมไปถึงการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบยั่งยืน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างบูรณาการ ในการสำรวจและสร้างแผนที่ร่องน้ำภายในประเทศ และร่องน้ำชายฝั่งทะเล รวมถึง การจัดเก็บ และการใช้ประโยชน์ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพร่องน้ำ และสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ
ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการจ้างเหมาสำรวจจัดทำแผนที่ภูมิประเทศและความลึกพื้นท้องน้ำเพื่อสนับสนุนการวางแผนพัฒนาโครงการพื้นฐานทางน้ำ โครงการจ้างที่ปรึกษาสำรวจ จัดทำแผนที่และรายละเอียดของสิ่งล่วงล้ำลำน้ำทั่วประเทศ บริเวณแม่น้ำ และเกาะภายในประเทศ , งานสำรวจวางหมุดหลักฐานแผนที่ถาวร ร่องน้ำภายในประเทศ รองรับการดำเนินงานจ้างสำรวจจัดทำแผนที่ภูมิประเทศ และความลึกท้องน้ำ เพื่อสนับสนุนแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ อาทิ แม่น้ำแม่กลอง บริเวณ จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดราชบุรี และ จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทางรวม 138 กิโลเมตร เป็นต้น
สำหรับโครงการต่างๆ ที่กล่าวมา ถือเป็นโครงการที่จะเร่งดำเนินการภายในปีงบประมาณ 2566 โดยมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อที่จะยกระดับประสิทธิภาพอำนวยความสะดวกต่อการเดินเรือในน่านน้ำไทยในการสร้างความปลอดภัยสูงสุดรวมถึงเพิ่มศักยภาพการขนส่งกองเรือไทยด้วยมาตรฐานการให้บริการที่ดีในระดับสากล