สมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งยุโรปประกาศให้อิหร่านเป็นผู้ผลิตรถยนต์นั่งรายใหญ่อันดับ 10 ของโลกในช่วง 9 เดือนของปี 2565 ซึ่ง อิหร่านผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้จำนวนสูงถึง 949,000,817 คัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.9 ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของโลก เทียบกับปริมาณผลผลิตในช่วงเดียวกันของปี 2564 ที่อุตสาหกรรมยานยนต์อิหร่านสามารถผลิตรถยนต์ได้เพียง 723,000,726 คัน ดังนั้น ผลผลิตในปีนี้จึงคิดเป็นปริมาณการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นสูงถึง ร้อยละ 31.2 ทำให้อับดับของอิหร่านจากเดิมอันดับที่ 13 ในปี 2564 แซงหน้าประเทศผลิตรถยนต์ที่เป็นคู่แข่ง สำคัญได้ถึง 3 ลำดับ คือ รัสเซีย (11) สาธารณรัฐเช็ก (12) และสโลวาเกีย (13)
อุตสาหกรรมยานยนต์ในอิหร่าน เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญของประเทศ รองจากอุตสาหกรรมน้ำมันดิบและก๊าซ ธรรมชาติโดยอิหร่านเป็นประเทศที่ผลิต รถยนต์มากที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 46 ของรถยนต์ที่ผลิตได้ในภูมิภาค ซึ่งประเภทรถยนต์ที่ อิหร่านมีศักยภาพในการผลิตจะประกอบไปด้วย รถส่วนบุคคล รถขับเคลื่อนสี่ล้อ รถบรรทุก รถโดยสารขนาดใหญ่ รถโดยสารขนาดเล็ก และรถปิกอัพ
ปัจจุบัน มีกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั่วประเทศจำนวน 25 กลุ่มบริษัท ทั้งที่เป็นของรัฐและเอกชน โดยมีฐานที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วประเทศ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ถือว่าเป็นรายใหญ่ในอันดับต้นๆ ของอิหร่าน ได้แก่ บริษัท Iran Khodro บริษัท Saipa บริษัท Modiran Khodro บริษัท Kerman Motor และบริษัท Mahman Motor เป็น ทั้งนี้ บริษัท Iran Khodro และบริษัท Saipa เป็นกลุ่มผู้ผลิตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ มีส่วนแบ่งผลผลิตรถยนต์รวมกันประมาณร้อยละ 96 ของผลผลิตรวมทั้งประเทศ ส่วนกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อื่นๆ ที่ส่วนใหญ่พบว่าเป็นค่ายผู้ผลิตรถยนต์อิสระ เช่น Bahman Motors, Kerman Motors , KSJ Motors (Khodro Sazan Jonoob) จะมีส่วนแบ่งผลผลิตรวมกันประมาณร้อยละ 3.7

ทั้งนี้ รถยนต์ที่ผลิตในประเทศอิหร่านส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในยุโรป เพราะใช้โรงงานผลิตและแพลตฟอร์มการผลิตที่มาจากยุโรปเป็นหลัก ดังนั้น จึงพบว่าในปัจจุบันรถยนต์ที่ผลิตได้และจำหน่ายในอิหร่านจึงยังคงใช้ยีห้อของยุโปรเป็นหลัก เช่น ยี่ห้อเปอร์โย และเรโนลต์ เป็นต้น ซึ่งได้รับการพัฒนาและออกแบบมาเป็นหลายรุ่น และในรูปโฉมที่แตกต่างกันไป บางรุ่นยังคงใช้ชื่อและตราของเปอร์โยและเรโนลต์แต่บางรุ่นจะใช้ตราและชื่อแบรนด์ของอิหร่าน เช่น Samand Soren และ Dena เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม รูปร่างและการออกแบบในภาพรวม ยังคงรูปลักษณ์ของความเป็นเปอร์โยและเรโนลต์อยู่ดี ทั้งนี้ภายหลังการคว่ำบาตรรอบใหม่ในปี 2561 กลุ่ม บริษัทรถยนต์ที่มีชื่อเสียงของยุโรปได้ถอนตัวออกไปจากตลาดรถยนต์อิหร่าน ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศจีนได้เข้ามามีบทบาทแทนที่ผู้ผลิตรถยนต์ยุโรปในตลาดอิหร่านเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนอกจากการร่วมทุน จัดตั้งโรงงานผลิตหลายๆแห่งแล้ว จีนยังได้เปิดศูนย์ให้บริการอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ การบริการหลังการขาย และ พัฒนารูปโฉมยานยนต์มีออปชั่นและฟังก์ชันต่างๆ เสนอให้กับลูกค้าที่แตกต่างจากรถยนต์ยุโรปอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากการเป็นผุ้ผลิตรายใหญ่ในภูมิภาคแล้ว อิหร่านยังเป็นผู้ผลิตสินค้าชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ใน ภูมิภาคอีกด้วย โดยอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ของอิหร่านในปัจจุบันมีผู้ประกอบการทั้งสิ้นประมาณ 1,200 บริษัท ซึ่งบางบริษัทเป็นบริษัทลูกที่ผลิตขิ้นส่วนป้อนโรงงานผลิตขนาดใหญ่ ในขณะที่บางรายเป็น บริษัทผู้ผลิตอิสระ ผลิตสินค้าหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการทั่งภายในประเทสและตลาดส่งออก ผุ้ผลิต เหล่านี้ผลิตสินค้าทั้ที่เป็นแบ Original Equipment Manufacturing หรือ OEM และแบบ After-Market Part ซึ่งผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์สำหรับรถยนต์ทั่วๆไป
แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงเตหะราน