ถูกถามไถ่ให้อิ้ออึงทั่วทุ่งสิบล้อเมืองไทยท่ามกลางข้อสงสัยและข้อครหาของสังคมที่เริ่มหนาหูว่าม็อบรถบรรทุกกับความหวังของหมู่บ้านที่ได้นัดเคลื่อนพลลงสู่ท้องถนนบุกกรุงกดดันภาครัฐให้ตรึงราคาดีเซลอยู่ที่ 25 บาท/ลิตรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนภาคขนส่งที่ทนแบกต้นทุนค่าขนส่งจากราคาน้ำมันแพงไม่ไหว ซึ่งการออกมาถึง2ครั้ง2ครานั้นดูจะถูกอกถูกใจและได้รับแรงเชียร์จากบรรดาพ่อยกแม่ยกยิ่งนัก
ทว่า หลังเสร็จสิ้นม็อบรถบรรทุกซีซั่น 2 (16พ.ย.64)พร้อมกับข้อเรียกร้อง-คำขู่จากแรงกดดันที่ถูกยกระดับขึ้นดูเหมือนจะไร้ผล เพราะภาครัฐยังสงบนิ่งไม่สนไม่แคร์ และยังสวนทางกับทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นราคาถี่ขึ้นทั้งก่อนและหลังปีใหม่ โดยเฉพาะหลังปีใหม่มาจนถึง ณ บัดนาวถูกปรับขึ้นไปแล้ว 7 ครั้งรวด
จนเป็นที่มากถูกสังคมถามไถ่ให้อื้ออึงว่าแล้วม็อบรถบรรทุกขวัญใจพ่อยกแม่ยกความหวังของหมู่บ้านเงียบหายไปไหน?ทำไม?ไม่ออกมาสำแดงบทบาทเพื่อกดดันภาครัฐเหมือนที่เคยลั่นวาจาไว้ หรือมีแค่คำขู่?หรือไปรับกล้วยหวีเบ้อเริ่มจากใครหรือไม่?ถึงได้เงียบกริบไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก!
ล่าสุด พวกเขากลับมาแล้วลูกพี่ใหญ่ความหวังของหมู่บ้าน“ม็อบรถบรรทุก”มาพร้อมกับคำยืนยันว่าไม่ได้เงียบหายไปไหน?และไม่ได้รับกล้วยหวีใหญ่จากใครทั้งนั้น ที่สำคัญถูกภาครัฐหลอก…ให้รอ!พร้อมกับโอดว่าการออกมากดดันแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายกว่าล้านบาทและเป็นค่าใช้จ่ายที่เฉลี่ยออกกันเองโดยไม่มี“ไอ้โม่ง”นายทุนหนุนหลังหรือมีนักการเมืองหน้าไหนมาเกี่ยวข้อง
ทางกลุ่มผู้เรียกร้องทั้งจากสหพันธ์ฯและ 10 สมาคมขนส่งฯได้เรียกร้องต่อสู้อย่างเต็มที่แล้วจากนี้ไปต้องเป็นเรื่องของประชาชนทุกคนที่ต้องออกมาต่อสู้ในเรื่องนี้ต่อไป และอยากเชิญเชิญประชาชนที่เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากราคามันแพงนี้ได้ออกมาร่วมกันต่อสู้ในวันที่ 8 ก.พ.ที่จะถึงนี้กับการต่อสู้เพื่อกดดันภาครัฐโดยกระทรวงพลังงานเป็นครั้งสุดท้ายภายใต้สโลแกน Truck Power Final Season
ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวกับเคลื่อนพลบุกครั้งนี้ดูเหมือนดีกรีจะเข้มข้นดุดันและมีนัยสำคัญมากขึ้นหลังการเคลื่อนพล2ซีซั่นก่อนหน้านี้ไม่สามารถระคายผิวและเปิดต่อมรับรู้ภาครัฐได้ ซึ่งการศึกครั้งนี้เดิมพันสูงกับหวังเผด็จศึกหลังไล่บี้มาตั้งแต่กลางเดือนต.ค.64 ด้วยการประกาศกร้าว 8 ก.พ.ที่จะถึงนี้พลพรรคสิบล้อจากทุกสมาคมฯจะเคลื่อนพลวิ่งผ่ากรุงบุกปักหมุดหมาย“ปิดกระทรวงพลังงาน”พร้อมขับไล่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และจะงัดหลักฐานเด็ดและข้อมูลทุจริตเกี่ยวกับการราคาน้ำมันแพงออกมาแฉต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชนอีกด้วย
ต้องยอมรับว่าการเคลื่อนพลสิงห์รถบรรทุก 2 ครั้งก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ประกอบการได้ขับเคลื่อนกิจกรรมให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายมีการเข้า-ออกใจกลางกรุงถูกต้องตามกรอบเวลาวิ่งของรถบรรทุกและคำนึงถึงปัญหาความเดือดร้อนประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนที่แม้อาจจะสร้างปัญหาการจราจรบ้างแต่ก็ไม่ได้ยืดเยื้อ
ทว่า การศึกเดิมพันครั้งสุดท้ายตามถ้อยวาจาที่ลั่นเอาไว้ Truck Power Final Season นี้ คงไม่ใช่แค่การเคลื่อนพลอย่างฮึกเหิมเพียงเพื่อมาเคาะประตูบ้านใหญ่พลังงานพร้อมกล่าวคำไว้อาลัย-วางพวงหรีดไว้เป็นที่ระลึกแล้วก็เดินจากไปอย่างเงียบๆแน่ๆ!
แต่นี้คือการประกาศปักหมุดหมาย“ปิดกระทรวงพลังงาน”กล่องดวงใจภาครัฐในแง่การบริหารราชการแผ่นดินด้านพลังงานของชาติ พร้อมชักธงรับด้วยการอเปหิเจ้ากระทรวงพลังงานให้พ้นรั้วกระทรวงหลังล้มเหลวกับแนวทางแก้ไขพลังงานแพง ส่งผลกระทบความเดือดร้อนประชาชนทุกหย่อมหญ้า
ซึ่งแนวทางการเคลื่อนไหวของม็อบรถบรรทุกครั้งสำคัญนี้จะมีการปักหลักตั้งเวทีไฮด์ปาร์คงัดข้อมูลเด็ดขึ้นถล่ม-แฉการทุจริตราคาน้ำมันแพงอย่างที่จั่วหัวเรียกแขก หรือจะมีการเรียกร้องถึงขั้นปักหลักค้างคืนยืดเยื้อหรือไม่?อย่างไร?ต้องติดตามความเคลื่อนไหวในวันนั้นอีกครั้ง
ซึ่งหากเกมยืดเยื้อพักแรมค้างคืนแล้วล่ะก็ นั่นอาจจะเป็นการเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลในแง่การบังคับใช้กฎหมายหรือไม่?และหากมีการปักหลักยืดเยื้อแล้วล่ะก็ ผลกระทบด้านการจราจรเส้นวิภาวดีฯและรอบๆจากการ“ปิดกระทรวงพลังงาน”ด้วยคาราวานรถบรรทุก คิดเอาเองล่ะกันว่ามันจะวินาศสันตะโรขนาดไหน?
ต้องตามลุ้นกันแหล่ะว่า 8 ก.พ.ที่จะถึงนี้กับการเคลื่อนพลลูกพี่ใหญ่ม็อบรถบรรทุกที่จะออกมาเคลื่อนพลบุกกรุงกดดันภาครัฐปักหมุดหมาย“ปิดกระทรวงพลังงาน”ขับไล่เจ้ากระทรวงครั้งนี้จะสามารถสะกิดต่อมรับรู้พลางสร้างแรงกระเพื่อมให้ภาครัฐยอมรับข้อเรียกร้องได้หรือไม่?
หรือจะเป็นแค่…ลมพัดผ่านหูภาครัฐ(อีกครั้ง)เท่านั้น?ปูเสื่อรอ!